หลังจากที่ได้ลงบทความฉบับปฐมฤกษ์เกี่ยวกับวีซ่านักเรียนออสเตรเลียรูปแบบใหม่ไปในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา (สามารถหาอ่านกันได้ที่ http://visatalkbycpsydney.blogspot.com/2016/08/visa-talk-by-cp-sydney.html) ผลตอบรับที่ได้มาจากเพื่อนๆผู้อ่านก็ถือว่าเป็นที่น่าพอใจและดีกว่าที่คิดพอสมควรเลยทีเดียว จากที่เคยคิดไว้ว่าจะเขียนเล่นๆในช่วงที่งานไม่ยุ่งก็มีความตั้งใจว่าจะเขียนให้บ่อยขึ้นอย่างน้อยก็คงจะเป็นประจำทุกเดือน เพื่อเป็นความรู้ในการทำวีซ่าให้กับน้องๆเพื่อนๆที่สนใจมาศึกษาต่อยังในประเทศออสเตรเลีย ก็มีหลายเรื่องทีเดียวที่คิดไว้ว่าจะเขียนให้อ่าน แต่ก็ยังไม่มีเวลาสักที จนล่วงเลยมาถึงเดือนตุลาคมที่เรา "คนไทยทุกคน" ได้รับข่าวร้ายที่สุดในชีวิตก็ว่าได้ "การเสด็จสู่สวรรคาลัยของพ่อหลวง" มหาราชย์ผู้ที่เป็นยิ่งกว่าพระมหากษัตริย์ของเราปวงชนชาวไทยทุกคน จากที่ตั้งใจว่าจะเขียนเกี่ยวกับเรื่องวีซ่านักเรียนออสเตรเลียในเดือนนี้ คงจะต้องขออนุญาตเปลี่ยนหัวข้อของบทความที่จะตั้งใจเขียนในฉบับของเดือนตุลาคมนี้เป็นการเขียนรำลึกถึงพระราชกรณียกิจทางด้านการศึกษาของพระองค์ท่าน เพื่อเป็นการรำลึกถึงในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้และร่วมส่งท่านเสด็จสู่สวรรคาลัยของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช แทนนะครับ
“การศึกษาเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างและพัฒนาความรู้
ความคิด ความประพฤติ และคุณธรรมของบุคคล
หากสังคมและบ้านเมืองใดให้การศึกษาที่ดีแก่เยาวชนได้อย่างครบถ้วนในทุกๆ ด้านแล้ว
สังคมและบ้านเมืองนั้นก็จะมีพลเมืองที่มีคุณภาพ
สามารถดำรงรักษาความเจริญมั่นคงของประเทศชาติไว้ และพัฒนาก้าวหน้าต่อไปโดยตลอด” พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ผู้ทรงตระหนักถึงความสำคัญของเยาวชนอันเป็นพื้นฐานที่สำคัญของประเทศชาติ
พ่อหลวงของเราทรงมีพระราชกรณียกิจทางด้านการศึกษาทั้งหมด 5 พระราชกรณียกิจด้วยกัน ได้แก่
- พระราชกรณียกิจด้านการศึกษาในระบบโรงเรียน
- พระราชกรณียกิจด้านการศึกษานอกโรงเรียน
- โครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน
- การพัฒนาบุคคล
- พระบรมราโชวาทและพระราชดำริเกี่ยวกับการศึกษา
โดยในฉบับเดือนตุลาคมนี้น้าหนวดจะขอเขียนถึงแค่พระราชกรณียกิจด้านการศึกษาในระบบโรงเรียนของพระองค์ท่านเพียงด้านเดียวก่อนนะครับ แล้วในฉบับถัดๆไปจะเขียนถึงพระราชกรณียกิจด้านการศึกษาด้านอื่นๆมาให้อ่านกันอีกในภายหลังนะครับ
พระราชกรณียกิจด้านการศึกษาในระบบโรงเรียน
- โรงเรียนจิตรลดา
โรงเรียนจิตรลดาเริ่มเปิดให้การเรียนการสอนครั้งแรกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2498 ในระดับชั้นอนุบาลภายในพระราชวังดุสิตอันเป็นที่ประทับขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์ในขณะนั้น ต่อมาในปี พ.ศ. 2501 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ให้ก่อสร้างอาคารเรียนถาวรขึ้นในบริเวณพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
พระราชวังดุสิต เพื่อเป็นสถานศึกษาของพระราชโอรส พระราชธิดา
บุตรหลานของพระบรมวงศานุวงศ์ มหาดเล็ก ข้าราชการบริหาร และบุคคลทั่วไป เนื่องด้วยทรงเห็นว่าการส่งพระราชโอรส
พระราชธิดาไปเรียนโรงเรียนข้างนอก อาจไม่เหมาะสมและเป็นภาระแก่โรงเรียนและครู โดยนักเรียนที่ได้เข้าเรียนที่โรงเรียนจิตรลดาจะไม่ต้องเสียค่าเล่าเรียน
รวมถึงได้พระราชทานเลี้ยงอาหารกลางวันและอาหารว่างตอนบ่าย นอกจากนี้นักเรียนที่เรียนดียังจะได้รับพระราชทานรางวัลจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชอีกด้วย
นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชอย่างล้นพ้น
เพราะนอกจากจะเป็นการแบ่งเบาภาระของรัฐบาลแล้ว ยังสามารถแก้ปัญหาการขาดแคลนสถานที่เรียนได้อีกด้วย และด้วยความที่เป็นโรงเรียนในพระบรมราชูปถัมภ์แห่งแรกในประเทศไทย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชจึงได้ประทานพระบรมราโชบายเพื่อเป็นสิริมงคลแก่สถาบัน
และเป็นคำสอนให้บุคคลากรไม่ว่าจะเป็นครูหรือนักเรียนนำไปประพฤติใช้เป็นแบบอย่างอีกด้วย
เนื้อความโดยสังเขปของพระบรมราโชบายก็จะกล่าวถึงพระราชโอรสและพระราชธิดา
ครู และเอกลักษณ์ของนักเรียน คือ ทรงมีพระราชประสงค์ให้พระราชโอรสและพระราชธิดาทรงพระอักษรร่วมกับนักเรียนคนอื่น เพื่อที่จะได้รู้จักวางตัวได้อย่างเหมาะสมและมีเมตตาในการใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่น
สำหรับครู มีพระราชประสงค์ให้เป็นตัวอย่างที่ดีแก่นักเรียน มีสำนึกของความเป็นครูในการนำความรู้ความสามารถมาสอนและพัฒนาความสามารถของนักเรียนเพื่อเป็นรากฐานที่ดีต่อสังคม
และครูต้องไม่ถวายสิทธิพิเศษแด่พระราชโอรสและพระราชธิดา
พระบรมราโชบายสุดท้ายสำหรับนักเรียนจิตรลดา คือ นักเรียนจิตรลดาต้องมีคุณธรรม มีความประพฤติที่ดี
และควรจะมีความสามารถที่หลากหลายไม่ได้มีแค่ความสามารถทางวิชาการเพียงด้านเดียว
- โรงเรียนราชวินิต
โรงเรียนราชวินิตได้ถือกำเนิดขึ้นจากการที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงมีพระราชปรารภที่จะจัดตั้งโรงเรียนราชูปถัมภ์
ณ บริเวณสวนเพาะชำ วังสวนกุหลาบ
เป็นโรงเรียนราษฎร์ระดับประถมศึกษาสำหรับนักเรียนที่เป็นบุตรหลานของข้าราชการสำนักพระราชวังโดยไม่เก็บค่าเล่าเรียน โดยได้เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีเปิดโรงเรียนเมื่อวันที่
18 มิถุนายน พ.ศ. 2511 และได้พระราชทานนามของโรงเรียนว่า “โรงเรียนราชวินิต” และพระราชทานความหมายของคำว่า
“ราชวินิต” ว่า สถานที่อบรบกุลบุตร กุลธิดาให้เป็นคนเก่งแห่งพระบารมีปกเกล้าฯ
ครั้งหนึ่งยังทรงพระราชทานทรัพย์สินส่วนพระองค์เพื่อใช้เป็นทุนพระราชทานแก่นักเรียนที่มีผลการเรียนดี
มีความประพฤติเรียบร้อย และยังทรงพระราชทานพระราชดำรัสว่า
“การศึกษาของเด็กโดยเฉพาะอย่างยิ่ง
การประถมศึกษาถือว่าอยู่ในชั้นสำคัญและจำเป็นสำหรับเด็กทุกคนด้วยเหตุนี้จึงมีพระราชบัญญัติการประถมศึกษาขึ้น
เพื่อให้เด็กได้มีโอกาสเล่าเรียนตามหลักสูตรที่วางไว้ แต่ทั้งนี้ย่อมต้องอาศัยความรู้ความสามารถของครูที่เอาใจใส่พยายามอบรมบ่มนิสัยให้เด็กมีความรู้
มีศีลธรรม เพื่อให้เป็นพลเมืองของชาติต่อไปในภายหน้าด้วย”
- โรงเรียนไกลกังวล
โรงเรียนไกลกังวลก่อตั้งขึ้นโดยพระบรมราชานุญาตในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล
เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ.
2481 เพื่อให้การศึกษาแก่บุตรหลานของเจ้าหน้าที่ผู้รักษาวังไกลกังวล
เปิดสอนชั้นเด็กเล็กไปจนถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 และยังมีการเปิดสอนหลักสูตรวิชาระยะสั้นเพิ่มเติมด้วย
ต่อมาได้อยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
พระราชทานอาคารที่พักกองรักษาการณ์วังไกลกังวลให้เป็นอาคารเรียนแทนอาคารไม้เก่าที่ชำรุดทรุดโทรมในปี
พ.ศ. 2497
ปัจจุบันเปิดสอนถึงระดับสารพัดช่าง วิชาชีพระยะสั้น และประกาศนียบัตรวิชาชีพช่างฝีมือ
ทั้งหมด 17 แผนกวิชา เพื่อเป็นการสนองโครงการตามพระราชดำริเกี่ยวกับศิลปาชีพพิเศษ
และเป็นที่ฝึกงานในชั่วโมงเรียนวิชาการวางพื้นฐานอาชีพด้วย นอกจากนี้พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชยังทรงพระราชทานเงินพระราชกุศลจากงบใช้สอยตามพระราชอัธยาศัยกว่า
1 ล้าน 2 แสนบาทต่อปี
เพื่อช่วยในการลดรายจ่ายให้กับโรงเรียนอีกด้วย
- โรงเรียนราชประชาสมาสัย
โรงเรียนราชประชาสมาสัยได้กำเนิดขึ้นจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชที่ทรงเล็งเห็นว่า บุตรธิดาของผู้ป่วยโรคเรื้อนได้รับเคราะห์กรรมจากบิดามารดาทำให้ไม่สามารถเข้าเรียนที่โรงเรียนใดได้เลย
เนื่องจากมีพระราชบัญญัติควบคุมโรคติดต่อไม่ให้โรงเรียนรับบุตรธิดาผู้ป่วยโรคเรื้อนเข้าเรียน
และถ้าปล่อยทิ้งไว้กับบิดามารดาก็จะทำให้ติดโรคได้
ทรงมีความห่วงใยชีวิตและอนาคตของเด็กเหล่านี้
จึงมีพระมหากรุณาธิคุณให้มูลนิธิราชประชาสมาสัยดำเนินการจัดสร้างโรงเรียนขึ้น
และได้ทรงเสด็จพระราชดำเนินมากับสมเด็จพระนางเจ้าฯ
พระบรมราชินีนาถ มาทรงพิธีเปิดโรงเรียนเมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2507
ต่อมาได้ดำเนินการจัดสร้างโรงเรียนในระดับมัธยมศึกษาผ่านมูลนิธิราชประชาสมาสัยเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชครองสิริราชสมบัติครบ 25 ปี เพื่อเอาไว้รองรับนักเรียนที่จะจบการศึกษาจากโรงเรียนราชประชาสมาสัยให้มีแหล่งศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น
โดยได้พระราชทานนามเมื่อแรกสร้างว่า “โรงเรียนราชประชาสมาสัยรัชดาภิเษก
แต่ในภายหลังได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็น “โรงเรียนราชประชาสมาสัย ฝ่ายมัธยม รัชดาภิเษก ในพระบรมราชูปถัมภ์” เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2528
- โรงเรียน ภ.ป.ร. ราชวิทยาลัยในพระบรมราชูปถัมภ์
อย่างไรก็ตามในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชได้พระราชทานพระบรมราชวินิจฉัยในการก่อตั้งโรงเรียนขึ้นมาใหม่ โดยขอใช้สถานที่ของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา สามพราน เดิมจากกระทรวงศึกษาธิการ อีกทั้งยังทรงพระราชทานอักษรพระปรมาภิไธยย่อ (ภ.ป.ร.) นำหน้าชื่อโรงเรียนราชวิทยาลัย และทรงรับไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นที่มาของชื่อโรงเรียนในปัจจุบัน “โรงเรียน ภ.ป.ร. ราชวิทยาลัยในพระบรมราชูปถัมภ์” ปัจจุบันรับนักเรียนชาย และเปิดทำการสอนในสายสามัญศึกษาตั้งแต่ระดับประถมศึกษาปีที่ 5 ถึงระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยนักเรียนทุกคนต้องอยู่ประจำในหอพักของโรงเรียน ซึ่งเรียกว่าบ้าน มีทั้งหมด 4 บ้าน ได้แก่ สีแสด สีเหลือง สีม่วง และสีแดง ตามสีประจำวันประสูติของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอและสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอทั้ง 4 พระองค์ เพื่อฝึกอบรมให้นักเรียนมีศีลธรรม และวัฒนธรรมอันดีงาม มีพลานามัยสมบูรณ์ จิตใจเป็นสุข มีระเบียบวินัย เคารพผู้ใหญ่ มีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และพึ่งตนเองได้
- มูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านทางดาวเทียม
การศึกษาทางไกลผ่านทางดาวเทียม ถือ กำเนิด จาก สำนัก งาน เลขาธิการ พระ ราช วัง ได้ เสนอ แนะ เป็น เบื้อง ต้น ที่ จะ นำ เทคโนโลยี ใน การ จัด การ เรียน การ สอน ผ่าน ระบบ โทรคมนาคมมาใช้กับโรง เรียน ใน โครง การ ตาม พระ รา ชดำริ เช่น โรง เรียน วัง ไกล กังวล และ โรง เรียน ใน สังกัด กรม สามัญ ศึกษา โดย ร่วมกับองค์ การ โทรศัพท์ แห่งประเทศ ไทย และ บริษัท ชิน วัตร แซทเทิลไลท์ จำกัด (มหา ชน) ในปี พ.ศ . 2538 เพื่อ เป็น โครง การ เฉลิม พระ เกียรติ ปี กาญจนาภิเษกของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และ ถวาย เป็น พระ ราช กุศล แด่ สมเด็จ พระ ศรีนคริน ทราบ รม ราช ชนนี เพื่อ พัฒนา กระบวน การ เรียน การ สอน ให้ ก้าว หน้า และ มี ประ สิ ทธิภาพ ช่วย โรง เรียน ที่ ขาด แคลน ครู สาขา วิชา ต่างๆ และ ช่วย โรง เรียน ที่ อยู่ ห่าง ไกล ได้ รับ โอกาส เท่า เทียมกับโรง เรียน ใน เมือง โดยมีโรง เรียน วัง ไกล กังวล เป็น แม่ ข่าย ทรงพระราชทานทุนทรัพย์ในการดำ เนิน การ ใน ชั้น แรกกว่า 50 ล้าน บาท เป็น ทุน ประเดิม และได้รับความร่วมมือจากหน่วย งาน บริษัท ตลอด จน บุคคล ทั่ว ไปเป็น จำนวน มาก โดยมีกระทรวง ศึกษาธิการ เป็น ผู้ ตั้ง งบ ประมาณ สนับสนุน เป็น ราย ปี ทุก ปี
ต่อ มาในปี พ.ศ . 2539 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงพระ ราช ทาน พระ บรม รา ชานุญาตให้ จัด ตั้ง สถานี ส่ง โทร ทัศน์ เพื่อ การ นี้ ขึ้น ที่ โรง เรียน วัง ไกล กังวล และมีการจัด ตั้ง เป็น มูลนิธิ ขึ้น เพื่อ บริหาร งาน โดยใช้ ชื่อ ว่า "มูลนิธิ การ ศึกษา ทางไกล ผ่าน ดาว เทียม " มี สำนัก งาน อยู่ ที่ อาคาร กรม สามัญ ศึกษา กระทรวง ศึกษาธิการ โดยได้ รับ พระ ราช ทาน พระ บรม รา ชานุญาตเป็น กรณี พิเศษ ให้ ใช้ ตรา สัญลักษณ์ กาญจนาภิเษกเป็น เครื่องหมาย ของ มูลนิธิ ทำให้ผลลัพธ์ในเชิงปริมาณ คือทำ ให้ สถาน ศึกษา ทุก สังกัด จัด การ ศึกษา ใน ระบบ ชั้น เรียน มี โอกาส ขยาย กา รดำ เนิน งาน ได้ กว้าง ขวาง มาก ขึ้น ทางด้าน คุณภาพ ทำ ให้ นัก เรียน ชน บท ห่าง ไกล มี โอกาส ได้ รับ ความ รู้ และ ศึกษา เล่า เรียนกับเหมือนกับนัก เรียน ใน เมือง รวมถึงประชา ชน ผู้ สน ใจ ใฝ่ หา ความ รู้ เพิ่ม เติมก็สามารถเข้าร่วมโครงการได้อีก ด้วย
- โรงเรียนเจ้าพ่อหลวงอุปถัมภ์
- โรงเรียนร่มเกล้า
ด้วยเหตุผลดังกล่าว พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชจึงได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์เพื่อก่อสร้างโรงเรียนที่บ้านหนองแดนเพื่อให้การศึกษาและป้องกันไม่ให้เยาวชนถูกชักจูงไปในทางที่ผิด และทรงพระราชทานนามโรงเรียนว่า "โรงเรียนร่มเกล้า" โดยในปัจจุบันมีมากกว่า 10 โรงเรียนในพื้นที่ทุรกันดารตามแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และมีหลักสูตรทางด้านวิชาชีพเสริมเพิ่มเติมเข้ามาอีกด้วย ไม่ได้มีเพียงแค่หลักสูตรประถมและมัธยมศึกษา อันเป็นพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชที่ต้องการส่งเสริมให้พสกนิกรมีอาชีพสุจริตในการประกอบการทำมาหากินเพื่อเลี้ยงครอบครัวได้
- โรงเรียนสงเคราะห์เด็กยากจน
- โรงเรียนที่ต้องการความช่วยเหลือตามความจำเป็นเร่งด่วน
ต่อมาในภายหลัง ทรงโปรดเกล้าฯ ให้มีการจัดตั้งมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ร่วมกับจังหวัดที่ประสบภัยอื่น และมีการสร้างโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ เพิ่มเติมอีก 6 แห่ง ใน 4 จังหวัดดังนี้ จังหวัดอุตรดิตถ์ จังหวัดหนองคาย จังหวัดเชียงราย และจังหวัดมหาสารคาม โดยโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ได้อยู่ภายใต้การดูแลของกรมสามัญศึกษา และมีมากกว่า 30 แห่งทั่วประเทศ
นี่ก็เป็นเพียงแค่พระราชกรณียกิจทางด้านการศึกษาด้านแรกของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชที่ทรงให้ความสำคัญเกี่ยวกับการศึกษาในระบบโรงเรียน...เดี๋ยวในฉบับถัดไปทางทีมงาน CPSydney จะมาเขียนถึงพระราชกรณียกิจทางด้านการศึกษาด้านอื่นๆให้น้องๆเพื่อนๆได้อ่านกันอีกนะครับ
นี่ก็เป็นเพียงแค่พระราชกรณียกิจทางด้านการศึกษาด้านแรกของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชที่ทรงให้ความสำคัญเกี่ยวกับการศึกษาในระบบโรงเรียน...เดี๋ยวในฉบับถัดไปทางทีมงาน CPSydney จะมาเขียนถึงพระราชกรณียกิจทางด้านการศึกษาด้านอื่นๆให้น้องๆเพื่อนๆได้อ่านกันอีกนะครับ
"ขอพระองค์ทรงเสด็จสู่สวรรคาลัย...ขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมรำลึกถึงในพระมหากรุณาธิคุณอย่างที่สุดมิได้"
#ทีมงานCPSydney