หลังจากที่ฉบับล่าสุด น้าหนวดได้เขียนสรุปเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของประกาศต่างๆ (ไม่ว่าจะเป็นการยกเลิก 457, เปลี่ยนแปลงลิสต์อาชีพที่สามารถยื่นขอ PR ได้, และการยื่นขอ Australian Citizenship) ที่น้าค่อม (Malcolm TURNBULL) และอิมมิเกรชั่นได้ประกาศออกมาเมื่อกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมาให้เราได้ขวัญเสียกันเล่นไปสดๆร้อนๆ...สำหรับใครที่อยากอ่านบทความย้อนหลังของน้าหนวดก็สามารถคลิกลิงค์ที่ให้ไว้ได้เลยนะครับ https://visatalkbycpsydney.blogspot.com.au/ จะมีไล่มาตั้งแต่ฉบับแรกจนถึงฉบับล่าสุดที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆที่เพิ่งประกาศไปในเดือนเมษายนที่ผ่านมาเลยจร้าาา พอกดขึ้นมาจะเห็นแค่ 3 ฉบับล่าสุดเท่านั้นนะครับ ถ้าอยากอ่านเพิ่มเติมของเก่าเก็บที่เคยเขียนไว้ก็สามารถเลื่อนลงมาข้างล่างจนถึงหัวข้อ "คลังบทความของบล็อก" ได้เลยครับ
หลังจากที่เครียด วิตกกังวลกันมาเป็นเดือนๆ จากเรื่องการเปลี่ยนแปลงวีซ่าที่เกิดขึ้น...วันนี้น้าหนวดก็จะขอเปลี่ยนบรรยากาศให้มันเข้ากับหน้าหนาวในซิดนีย์แบบ ลมพัดเย็นดี ชิวๆ ด้วยการแนะนำสถาบันการศึกษาในออสเตรเลียบ้างดีกว่า จะได้ไม่เครียดกันจนเกินไป แค่ต้องมานั่งเรียน นั่งทำงานงกๆ ส่งเงินกลับไทยก็เก๊กซิมกันจะตายอยู่แล้ว นี่ถ้าต้องมานั่งเครียดเรื่องวีซ่าทุกวี่ทุกวันอีก...นี่ไมเกรนขึ้น เส้นเลือดในสมองแตกตายกันพอดีเนอะ โดยวันนี้จะมาพูดถึงมหาวิทยาลัยมีชื่ออาจจะไม่ได้ดังเหมือนมหาวิทยาลัย GROUP OF EIGHT ของออสเตรเลีย แต่ก็เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ ได้รับการรับรองจากสำนักงาน ก.พ. ในบ้านเรา แถมยังมี campus มากกว่า 10 แห่งทั่วประเทศออสเตรเลีย และที่สำคัญราคาไม่แพงมากด้วยครับถ้าเทียบกับมหาวิทยาลัยอื่นๆ
เขียนมาขนาดนี้ไม่รู้ว่าน้องๆเพื่อนๆจะพอเดากันได้รึยังว่า น้าหนวดจะเขียนถึงมหาวิทยาลัยไหน...ถูกต้องละคร้าบบบ!! วันนี้เราจะมาพูดถึง Central Queensland University (CQUniversity) นั่นเอง เอาเป็นว่ามหา'ลัยนี้ดีอย่างไร ก็ลองอ่านกันเลยละกันจะได้ไม่เสียเวลา เวลามีน้อยต้องใช้สอยอย่างประหยัดครับ
พูดกันแบบสไตล์คนไทยบ้านเรา แบบความคิดของผู้ใหญ่รุ่นพ่อรุ่นแม่...อันดับแรกๆที่เป็นปัจจัยในการเรียนต่อก็คงไม่พ้นของเชื่อเสียงของสถาบัน แบบว่ามหา'ลัยนี้ดีไหม ดังหรือเป็นที่รู้จักที่ไทยรึป่าว เอาเป็นว่าน้าจะไม่พูดอะไรมากให้ภาพเล่าเรื่องแทนละกัน
หลักๆเลยก็คือ เป็นมหา’ลัยที่ติดอยู่ใน
Top 2% จากมหาวิทยาลัยต่างๆทั่วโลก
และยังถูกจัดให้เป็น 1 ในมหา’ลัยที่ดีที่สุดสำหรับมหาวิทยาลัยที่มีอายุไม่เกิน
50 ปีอีกด้วย
นอกจากจะมีชื่อเสียงชั้นยอดและคุณภาพชั้นเยี่ยมแล้ว ทางมหาวิทยาลัยยังมี campus
กระจายอยู่ทั่วทุกหนแห่งในออสเตรเลียถึง 12 แห่งด้วยกัน ได้แก่
· Adelaide
|
· Melbourne
|
|
· Brisbane
|
· Noosa
|
|
· Bundaberg
|
· Perth
|
|
· Cairns
|
· Rockhampton (North and City)
|
|
· Gladstone
|
· Sydney
|
|
· Mackay (Ooralea andCity)
|
· Townsville
|
คุณภาพดี ชื่อเสียงได้ สถานที่ให้เรียนก็หลากหลาย
แล้วคุณหลวงของบ่าวยังจะต้องการอะไรจากอีช้อยอีกหล่ะเจ้าคะ??555 ว่ากันด้วยเรื่องหลักสูตรของมหาวิทยาลัยก็มีให้เรียนมากมายหลายหลากทั้งสายบริหารการจัดการ
สายสุขภาพ วิทยาศาสตร์ วิศวกร ทาง CQUniversity เขาก็จัดให้ได้หมด แม้แต่หลักสูตรเฉพาะทางอย่างพวก
Service Industries และ Transport and Safety
Sciences ก็มีนะเออ และที่สำคัญหลักสูตรต่างๆที่ว่ามาเนี่ยะได้รับการรับรอง หรือเป็น accredited course จากทางทางหน่วยงานต่างๆอีกด้วย เพราะฉะนั้นน้องๆหนูๆสามารถนำวุฒิที่ได้จากทางสถาบันไปใช้ในการทำ skill assessment สำหรับคนที่ต้องการจะยื่นขอ PR ในสาขาอาชีพต่างๆได้อย่างแน่นวลลล
คราวนี้ก็มาว่ากันที่ค่าสินสอดทองหมั้นสำหรับการเรียนกันบ้าง...เอาจริงๆค่าเทอมของ CQUniversity ก็ถือว่าสมเหตุสมผล ไม่ถูกไม่แพง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเปรียบเทียบกับมหา’ลัยชั้นนำอื่นๆในออสเตรเลียที่อยู่ในระดับ Top
2% ของอันดับมหาวิทยาลัยโลกเหมือนกันด้วยแล้ว ก็ถือได้ว่า OK มั่กๆ นอกจากนี้ทางมหา’ลัยยังมีทุนการศึกษา Vice-Chancellor’s Scholarship ที่ครอบคลุม 20% ของค่าเทอมทั้งหมดให้กับนักเรียนต่างชาติทั้งในระดับปริญญาตรีและปริญญาโทอีกด้วยนะครับ
อีกเหตุผลหนึ่งที่น่าจะเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจในการเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยต่างๆก็คือ "โปรแกรมฝึกงาน หรือ Internships and Placements" ซึ่งทางมหาวิทยาลัยก็สามารถให้ความช่วยเหลือสำหรับน้องๆนักเรียนที่สนใจที่อยากจะได้ประสบการณ์ตรงจากการทำงานในโลกแห่งความเป็นจริง
เพื่อสร้างโอกาส และสร้าง connections เพื่อเป็นการเปิดโอกาสในการทำงานให้กับตัวเองในอนาคตได้อีกด้วยนะ ซึ่งโปรแกรมฝึกงานดังกล่าวเป็นโปรแกรมพิเศษที่ทางมหาวิทยาลัยได้จัดขึ้นให้กับนักเรียนของสถาบันโดยเฉพาะ
โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆเพิ่มเติม และยังนับเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรการเรียนการสอนอีกด้วย เรื่องรองสุดท้ายที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ เครือข่าย หรือ Connection ของมหาวิทยาลัย ซึ่งก็ต้องบอกเลยว่า CQUniversity นี่เขาก็ Worldwide มากๆ
ไม่ว่าจะเป็น connection กับผู้นำทางด้านเศรษฐกิจของโลกอย่างประเทศจีน หรือผู้นำทางด้าน IT อย่างอินเดีย รวมถึงประเทศอื่นๆทั่วโลกต่างก็ยอมรับในคุณภาพของ Central
Queensland University รวมถึงประเทศไทยของเราเอง CQUiversity ก็ได้รับการยอมรับและการรับรองคุณวุฒิจากสำนักงาน ก.พ. ตามที่ได้กล่าวไปตั้งแต่ตอนต้นอีกด้วย
เพราะฉะนั้นก็ไม่ต้องห่วงในเรื่องของการไม่เป็นที่ยอมรับต่างๆจากบริษัทผู้ว่าจ้างประเทศไทยอย่างแน่นอนจร้าาา
สุดท้ายละ สำหรับน้องๆที่สนใจอยากมาศึกษาต่อกับทาง CQUniversity ตอนนี้ทางมหาวิทยาลัยก็มีโปรโมชั่นพิเศษสุดสำหรับน้องๆที่มีความประสงค์อยากจะเรียนภาษาอังกฤษกับทางสถาบัน ซึ่งก็จะเหมาะมากๆกับคนที่ต้องการฝึกภาษาจริงๆ
หรือเรียนเพื่อเตรียมไว้เรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย!! คือตอนนี้ทางมหาวิทยาลัยมีโปรโมชั่นพิเศษสุดสำหรับคอร์สภาษาอังกฤษด้วยสนนราคาเพียง
AUD$260/week เท่านั้นสำหรับน้องๆนักเรียนคนไทย เพราะฉะนั้นหากน้องๆเพื่อนๆคนไหนกำลังมองหาหลักสูตรการเรียนกับมหาวิทยาลัยชั้นนำในออสเตรเลีย
ก็ลองพิจารณา Central Queensland University
(CQUniversity)
ไว้ในอ้อมใจกันดูนะครับ คุณภาพก็ดี ชื่อเสียงก็ได้ สถานที่เรียนและหลักสูตรก็มีให้เรียนอย่างหลากหลาย ทุนการศึกษาและโปรแกรมการฝึกงานก็มีให้
แถมยังได้การรับรองจาก ก.พ. ในบ้านเราอีกด้วย
หากน้องๆเพื่อนๆมีอะไรสงสัยเกี่ยวกับ Central Queensland University ก็สามารถเข้าไปที่เวบไซต์ของมหาวิทยาลัยโดยตรงด้วยตัวเองได้ที่ https://www.cqu.edu.au/ หรือถ้าอยากจะสอบถามเกี่ยวกับหลักสูตรการเรียน และวีซ่าต่างๆในประเทศออสเตรเลีย ก็สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ของ CP
Sydney office ได้ที่ Facebook Page: www.facebook.com/cpsyd หรือจะโทรมาที่ (+61) 2 9267 8522 ก็ได้นะครับ
ทิ้งท้ายสุดๆสำหรับฉบับนี้ด้วยแง่คิดส่วนตัวของน้าหนวดหน่อยละกัน คือ เข้าใจว่าการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นของวีซ่ามันอาจจะกระทบกับหลายๆคนที่ตั้งความหวังไว้กับการทำ PR แต่อยากให้มองว่า PR ไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิต ลองตั้งสติเหมือนที่เมนเทอร์มาช่าบอก และมองรอบตัวดีๆ เราอาจจะเห็นว่ายังมีอะไรสำคัญกว่านั้นเยอะ และมันไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ ตอนนี้เราอยู่ในบ้านเมืองของเขาก็ต้องว่าไปตามกฎหมายหรือข้อบังคับที่เขาวางไว้ อยากได้อยากมีก็ต้องดิ้นรนกันต่อไป ชีวิตไม่สิ้นก็ต้องดิ้นกันต่อไป นะฮ๊าฟฟฟ แต่ละคนมีเป้าหมายชีวิตไม่เหมือนกัน สู้ต่อไปครับทุกคน ยังไงก็เป็นกำลังใจให้...
#น้าหนวด