วันอาทิตย์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2561

นับถอยหลัง Temporary Skill Shortage (TSS) Visa subclass482!!!

กุมภาพันธ์ผ่านไปอีกเดือนแล้วจร้าาา เร็วเหลือเกิน แม่คุณเอ๊ยยย!! เข้าสู่เดือนมีนาคม 2018 ไม่ทันไร อีกไม่นานวีซ่าตัวใหม่ก็จะถูกนำมาใช้แทนที่วีซ่านายจ้างสปอนเซอร์ subclass457 ตัวเก่าแล้วนะจ๊ะ โดยชื่อใหม่ของวีซ่าตัวนี้ก็คือ "Temporary Skill Shortage (TSS) Visa (subclass482)" ซึ่งก่อนที่จะไปเข้าเรื่องของเจ้า 482 ตัวใหม่ที่ว่านี้ น้าหนวดก็มีอะไรมาอัพเดทให้ฟังในเดือนมีนาคมนี้กันก่อนครับ

อย่างแรกเลยคือ Risk Rating Review ของทั้งสัญชาติ และสถาบันต่างๆ จะถูกประเมินและประกาศกันออกมาให้ทราบอีกครั้งในเดือนนี้ ซึ่งตอนนี้บางโรงเรียนก็ได้เข้ามากระซิบบอกเรากันบ้างแล้วว่าตัวฉันเองอยู่ที่เท่าเดิมมีความเสี่ยงเหมือนเดิมมิเปลี่ยนแปลง, ได้เลื่อนขั้นเสี่ยงน้อยลง, หรือถูกลดระดับให้ลงไปอยู่ในกลุ่มที่เสี่ยงมากขึ้น555...บางโรงเรียนก็ถูกปรับให้มีความเสี่ยงน้อยลงอย่างน่าแปลกใจ บางโรงเรียนก็ดั๊นนน กลายเป็นถูกลดระดับให้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงซะอย่างนั้น แต่ที่ค่อนข้างแน่นอนแล้วก็คือ พี่ไทย ของเรายังถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มของ RISK RATING COUNTRY LEVEL 3 เหมือนเดิมจร้าาา แต่ตอนนี้ยังไม่มีการประกาศออกมาอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด ถ้าเดี๋ยวเขาประกาศออกมาเมื่อไหร่น้าจะมากระซิบบอกกันอีกทีนะ เดือนหน้าก็คงจะได้รู้กัน

จบไปหนึ่งเรื่อง ต่อด้วยอีกเรื่อง แมร่งมีแต่เรื่อง เอ้ยยย ไม่ใช่ไม่ใช่555...พาร์ทนี้จะมาอัพเดทให้ฟังในสิ่งที่ไม่รู้ว่ามีใครสังเกตุรึเปล่า คือ ตอนนี้ immigration ได้เปลี่ยนชื่อกระทรวง และชื่อ website ของตัวเองจาก Department of Immigration and Border Protection มาเป็น "Department of Home Affairs" และได้เปลี่ยนชื่อ website เป็น https://www.homeaffairs.gov.au/ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยคำจำกัดความของชื่อใหม่ไฉไลกว่าเดิม จะถูกนิยามว่า "ดูแลตั้งแต่สากเบือยันเรือรบในทุกๆอย่างที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศออสเตรเลีย โดยจะครอบคลุมทุกๆเรื่องไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงเพื่อให้ประเทศออสเตรเลียสงบสุข" คราวนี้เปลี่ยนชื่ออย่างเดียวไม่พอไง แต่ปฏิบัติจริงด้วยหน่ะสิ เพราะเขาจะเพ่งเล็งในทุกๆเรื่องที่สุ่มเสี่ยงต่อความมั่นคงของประเทศ ไม่ว่าเราจะไปทำผิดอะไรมาระหว่างที่อยู่ในออสเตรเลียก็จะถูกนำมาเป็นประเด็นได้ทั้งนั้น มีสิทธิ์โดนยกเลิกวีซ่า (cancel) ได้ทั้งนั้น และโทษสูงสุดคือ อาจโดนส่งกลับประเทศ ก็เป็นด้ายยย!

ตัวอย่างสดๆร้อนๆเลย คือ เมื่อเร็วๆมานี้มีน้องคนหนึ่งโทรเข้ามาปรึกษากับทางเจ้าหน้าที่ CPSydney office ของเราว่า "โดนข้อกล่าวหาในคดีทำร้ายร่างกาย" และกำลังขึ้นศาลอยู่ อ่านปากนัทชาตรงนี้อีกรอบนะคะว่า "กำลังขึ้นศาลอยู่ ยังไม่ได้ถูกตัดสินว่าถูกหรือผิด" แต่ อยู่มาวันหนึ่งบังเอิญพบศพวณิพกนอนตายยย555 #หยอกหยอก ความจริงคือ น้องได้รับจดหมายจากเจ้าหน้าที่อิมมิเกรชั่นด้วยเจตจำนงค์ที่ต้องการแจ้งให้น้องทราบว่า "เราจะยกเลิกวีซ่านักเรียนของเธอละนะ" ผ่าม พามมม!!! อันเนื่องมาจากการมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมที่นำไปสู่ความไม่สงบสุขในประเทศออสเตรเลีย  ทั้งๆที่ศาลเองก็ยังไม่ได้ตัดสินว่าจำเลยมีความผิดหรือไม่ นี่ถือว่าเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนเลยว่าเดี๋ยวนี้อิมฯเขาก็เหมือนจะจริงจังขึ้นจริงๆแล้วนะ น้าก็อยากจะเตือนหลานๆกันไว้หน่อยว่าอย่าก๋ากั่นผิดที่ผิดทาง ที่นี่ออสเตรเลียนะ ไม่ใช่เมืองไทย ที่ฆ่าแมวยักษ์สีดำแล้วไม่มีความผิด หรือสร้างบ้านในเขตชุมชนก่อนที่จะมีตลาดแต่กลับโดนกฎหมู่ขับไล่ให้ไปอยู่ที่อื่นซะอย่างนั้น ง่อววว

จบเรื่องเมาท์มอยไปแล้ว คราวนี้มาเข้าเนื้อหาหลักของวันนี้กันบ้างดีกว่า...

หลานๆคงพอทราบกันอยู่แล้วว่าเดือนนี้วีซ่าตัวใหม่จะเริ่มใช้ หลังจากที่มีการประกาศล่วงหน้ามาตั้งแต่ปีที่แล้ว วีซ่าตัวใหม่ที่พูดถึงจะมีชื่อว่า "Temporary Skill Shortage (TSS) Visa (subclass482)" โดยจะมีผลเริ่มบังคับใช้และถูกนำมาแทนที่ Temporary Work (Skilled) Visa (subclass457) ในช่วงกลางเดือนนี้ (ถ้าอิงจากประกาศของปีที่แล้วก็จะเป็นวันที่ 18 มีนาคม 2018) ซึ่งในขณะนี้อิมฯก็ค่อยๆปล่อยข้อมูลออกมาให้พอได้ทราบเป็นพอสังเขปกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เดี๋ยววันนี้น้าจะมาเล่าอัพเดทให้ออเจ้าทั้งหลายฟังว่าเจ้าตัว 482 เนี่ยะ มันมีรูปร่างหน้าตาเป็นเยี่ยงไรกันบ้าง

  • ชื่อใหม่ Temporary Skill Shortage Visa (subclass482) หรือ TSS Visa
แม่นาง 482 จะถูกนำมาทดแทนตัว 457 โดยมีจุดประสงค์มุ่งหมายเพื่อพัฒนาระบบของการจ้างงานในออสเตรเลีย และให้วีซ่าทำงานในออสเตรเลียมีระบบการคัดกรองคนที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยจะมุ่งเน้นเฟ้นหาแรงงานต่างชาติที่มีคุณภาพจริงๆให้ได้เข้ามาทำงานในออสเตรเลียทั้งแบบระยะสั้นและระยะยาว อีกทั้งยังเพื่อช่วยป้องกันปัญหาการว่างงานของคนออสเตรเลียอีกด้วย

  • ประเภทของ TSS Visa
    • Short-Term Stream
เป็นวีซ่าทำงานระยะสั้น จะสามารถทำตัว short-term นี้ได้ในกรณีที่อาชีพนั้นๆอยู่ในลิสต์ของ Short-term Skilled Occupation List (STSOL) อาทิเช่น restaurant manager, massage therapist ฯลฯ โดยจะสามารถทำงานได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ไม่สามารถต่อยอดขอ PR ได้ และสามารถถือวีซ่าตัวนี้ได้เพียงแค่ 2 ครั้งเท่านั้น โดยครั้งแรกจะได้ระยะเวลาของวีซ่านานสุดอยู่ที่ 2 ปี ส่วนในครั้งที่ 2 ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่าจะได้อีก 1 หรือ 2 ปี แต่ก็จะมีข้อยกเว้นสำหรับประเทศที่มีสัญญาการค้าระหว่างประเทศกับออสเตรเลีย โดยผู้ที่ถือพาสปอร์ตของประเทศดังกล่าวจะมีสิทธิ์ได้วีซ่าทำงานระยะสั้นตัวแรกเป็นระยะเวลาถึง 4 ปีด้วยกัน ซึ่งเคราะห์ดีที่สยามประเทศของเรามีตัว Thailand-Australia Free Trade Agreement ทำให้น้องๆออเจ้าทั้งหลายก็อาจจะได้รับวีซ่าแบบ 4 ปี
เอกสารประกอบเบื้องต้นต่างๆ นอกจากพวกเอกสารจากทางนายจ้าง และคุณวุฒิที่เหมาะสมของผู้ที่ได้รับการสปอนเซอร์ก็จะมี Genuine Temporary Entrant Statement (GTE) และคุณสมบัติความสามารถทางภาษาอังกฤษ ซึ่งเจ้าตัว GTE ก็จะคล้ายคลึงกับวีซ่านักเรียนนั่นแหล่ะครับ สำหรับในส่วนของ English requirement ก็จะอยู่ที่ IELTS overall 5.0 with no band less than 4.5 หรือผลการสอบอื่นๆที่เทียบเท่า
    • Medium-Term Stream
เป็นวีซ่าทำงานระยะยาว จะสามารถทำวีซ่าตัวนี้ได้ก็ต่อเมื่อมีอาชีพที่อยู่ในลิสต์ของ Medium and Long-term Strategic Skilled List (MLTSSL) โดยข้อดของวีซ่าตัวนี้ คือ จะสามารถต่อยอดขอ PR ได้หลังจากที่ทำงานในตำแหน่งเดิมกับนายจ้างเดิมเป็นเวลาตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป โดยอาชีพยอดนิยมสำหรับหลานๆคนไทยในสมัยนี้ก็จะได้แก่ Chef และ Accountant จร้าาา
วีซ่าตัวนี้ยังไม่ได้มีการระบุหรือกำหนดว่าต้องมี GTE statement เป็นหลักฐานประกอบสำหรับเอกสารเบื้องต้นหรือไม่ เพราะฉะนั้นก็คงจะเป็นเอกสารต่างๆทั่วไปตามเดิม ที่ต่างจากตัววีซ่าทำงานระยะสั้นก็น่าจะมีแค่ในเรื่องของ visa application ที่สูงขึ้น และ English requirement ที่สูงกว่าตัวระยะสั้น โดยจะต้องการที่ IELTS overall 5.0 with no band less than 5.0 หรือผลการสอบอื่นๆที่เทียบเท่า
    • Labour Agreement
จะไม่ค่อยพบเจอกับน้องๆคนไทยสักเท่าไหร่ เพราะว่าจะเป็นวีซ่าทำงานสำหรับนายจ้างที่ทำสัญญากับประเทศออสเตรเลียโดยตรงสำหรับการนำแรงงานต่างชาติเข้ามาทำงานในออสเตรเลีย โดยจะเป็นแรงงานลักษณะจำเพาะ ที่ไม่สามารถหาแรงงานท้องถิ่น โดยนายจ้างที่สามารถทำวีซ่าตัวนี้ได้ก็ต้องมีลักษณะจำเพาะเช่นกัน ซึ่งโดยส่วนใหญ่ที่น้องๆคนไทยเราได้สปอนเซอร์ก็จะมาจากนายจ้างที่เป็นรูปแบบรายบุคคลหรือผู้ประกอบการรายเล็กซะมากกว่า แต่ก็ถือซะว่าเอามาเขียนให้อ่านไว้เพื่อประดับความรู้ละกันเนอะ
  • Labour Market Testing (LMT)
LMT หรือ "การทดสอบตลาดแรงงาน" ที่จริงก็ไม่ได้ถือว่าเป็นเรื่องใหม่แต่อย่างใด แต่ภายใต้ตัว TSS เจ้าหลักฐาน LMT ก็จะมีบทบาทมากขึ้น ซึ่งก็จะสามารถทำได้โดยการลงประกาศโฆษณารับสมัครงานแรงงานที่เป็นคนออสเตรเลียในตำแหน่งที่ต้องการสปอนเซอร์ แต่ไม่สามารถหาคนท้องถิ่นที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเข้ามาทำงานในตำแหน่งดังกล่าวได้จริงๆ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องจ้างและสปอนเซอร์แรงงานต่างชาติแทน
สำหรับการโฆษณาก็ต้องทำอย่างเหมาะสมด้วยเช่นกัน ไม่ใช่แบบไก่กาอาราเล่ เพราะฉะนั้นการลงโฆษณาใน website ยอดนิยมทั่วไปอย่าง gumtree หรือ natui อาจจะนำมาใช้เป็นหลักฐานที่มีนำ้หนักเพียงพอได้แล้วนะเออ โดย LMT จะเป็นเอกสารที่ควรจะมีสำหรับการยื่นวีซ่าทำงานทั้งแบบ short-term และ medium-term
  • ประสบการณ์ทำงานขั้นต่ำ 2 ปี
อันนี้เป็น requirement ใหม่สำหรับการทำวีซ่าทำงานแบบ TSS!!! คือ ก่อนที่จะทำวีซ่า TSS ได้ พนักงานที่จะได้รับการสปอนเซอร์ต้องมีประสบการณ์ทำงานกับนายจ้างคนนั้นๆเป็นเวลาอย่างน้อย 2 ปี โดยจะนำประสบการณ์ทั้งแบบ casual, part-time, และ full-time มานับรวมทั้งหมดให้ได้อายุงานตั้งแต่ 2 ปีเป็นต้นไป หลักฐานที่นำมาพิสูจน์ได้ก็คงหนีไม่พ้นหนังสือรับรองการทำงาน หรือ payslip แต่ถ้าอิมฯมีการประกาศเพิ่มเติมเกี่ยวกับเอกสารที่ต้องใช้เมื่อไหร่ เดี๋ยวจะมาเขียนให้อ่านกันอีกทีนะจ๊ะ

นี่ก็จะเป็นข้อมูลอัพเดทพอสังเขปที่มีในตอนนี้ เดี๋ยวคงมีข้อมูลออกมาเพิ่มเติมอีกก่อนที่เราจะจัดงานสัมมนาในวันพุธที่ 21 มีนาคมที่จะถึงนี้ ยังไงถ้าว่างก็สามารถสำรองที่นั่งเข้ามานั่งฟังสัมมนา "ฟรี" ในวันดังกล่าวได้เลยนะน้องนางออเจ้าทั้งหลาย กระซิบบอกกันนิดนึงว่า "งานนี้รับจำนวนจำกัด และเหลือที่นั่งให้จับจองกันไม่ถึง 10 ที่นั่งเท่านั้น" รีบๆสำรองที่นั่งกันเข้ามาเยอะๆนะครับ โทร 02 9267 8522 หรือถ้าจะสำรองที่นั่งทางช่องทางอื่นก็สามารถดูรายละเอียดของงานสัมมนาตามโปสเตอร์ด้านล่างได้เลยจร้าาา


#ด้วยความปรารถนาดีจากCPSydney

#น้าหนวด