วันเสาร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

ว่ากันด้วยเรื่องของใหม่...New Regional Visas & New Point Test System!!

สวัสดีวันเลือกตั้งออสเตรเลียประจำปี 2019...เพื่อนๆพี่น้องชาวไทยที่มีสัญชาติออสเตรเลียก็อย่าลืมออกไปใช้สิทธิใช้เสียงกันนะจ๊ะ คงรู้ถึงการเพิกเฉยต่อหน้าที่ของการเป็นพลเมืองที่นี่กันดีอยู่แล้ว ไม่ต้องให้น้าสาธยายกันให้เสียเวลาเนอะ (เดี๋ยวเจ็บคอ555)

ว่ากันด้วยเรื่องของการเจ็บคอ นี่ก็ต้องเปิดบทความนี้ด้วยนี่เลย การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ เพราะอะไรหน่ะหรอ คือ ถ้าได้ตามข่าวกันในช่วงนี้ก็จะรู้ว่าโรคไข้หวัดระบาดนะจ๊ะ ร้ายแรงถึงขนาดที่คร่าชีวิตผู้คนไปหลายรายแล้วด้วยทั้งใน Queensland และ South Australia ร้อนถึงรัฐบาลต้องออกมาประกาศกึ่งรณรงค์เชิญชวนให้ไปฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดกันแล้วจร้าาา ยังไงก็กันไว้ดีกว่าแก้ละกันนะครับ ถ้าใครมีเวลาก็ไปหาฉีดกันสักหน่อยก็ละกัน...อันที่จริงก่อนหน้านี้จะมีเรื่องวัคซีนป้องกันโรคหัดด้วยนะ แต่ตอนนี้เงียบไปละ ก็คิดว่าคงไม่มีอะไรละแหล่ะมั้ง ถ้าใครไปฉีดวัคซีนแก้หวัดก็ลองถือโอกาสถามคุณหมอเกี่ยวกับวัคซีนแก้หัดไปด้วยเลยก็ได้ครับ

จากฉบับที่แล้ว https://visatalkbycpsydney.blogspot.com/2019/05/tourist-visa-pr-regional-areas.html ที่พูดถึงเรื่องของนโยบายที่รัฐบาลต้องการจะผลักดันให้เราไปอาศัยอยู่ใน regional areas เพื่อกระจายความหนาแน่นออกจากเมืองใหญ่โดยเอาการเป็น permanent residence มาเป็นสิ่งล่อตาล่อใจ เดี๋ยวในฉบับนี้เราก็จะมาต่อกันในเรื่องของวีซ่าตัวใหม่กันเลยครับ
  1. Subclass 491: Skilled Work Regional (Provisionsal) Visa - วีซ่าตัวนี้จะมาทดแทนวีซ่า subslass 489 นั่นแหล่ะ จะเป็นตัววีซ่าที่ตัวผู้สมัครจะต้องได้รับการสปอนเซอร์จากทางรัฐหรือเขตปกครองนั้นๆให้ทำงานในเขตภูมิภาคนั้น ซึ่งก็จะต้องเป็นอาชีพที่อยู่ในลิสต์ที่ทางรัฐหรือเขตปกครองนั้นๆต้องการ ถ้าเอาให้คุ้นหูก็คือตัว state sponsorship ที่ทุกคนคุ้นเคยกันนั่นแหล่ะ
  2. Subclass 494: Skilled Employer Sponsored Regional (Provisional) Visa - วีซ่าตัวนี้จะมาแทนที่ของ subclass 187 Regional Sponsored Migration Scheme หรือ RSMS ที่ผู้สมัครจะทำวีซ่าตัวนี้ได้ก็ต่อเมื่อมีนายจ้างสปอนเซอร์ให้ทำงานในอาชีพที่เป็นที่ต้องการในภูมิภาคนั้นๆ
  3. Subclass 191: Permanent Residence (Skilled Regional) Visa - วีซ่าตัวนี้ไม่ได้มาแทนที่ใคร เพราะเอาเข้าจริงแล้วคนที่ไม่ใช่แฟนทำแทนทุกเรื่องไม่ได้ #หยอกหยอกนะ555 เพิ่มอรรถรสให้บทความหน่อย...เอาง่ายๆ วีซ่าตัวนี้ก็คือ ตัว PR ที่จะได้จากการมีวีซ่าทักษะแบบชั่วคราวในเขตภูมิภาคมาก่อนนั่นแหล่ะ โดยจะต้องถือวีซ่าชั่วคราว subclass 491 หรือ 494 ก่อน ถึงจะยื่นขอ PR subclass 191 ได้ตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน 2022 เป็นต้นไป
อนึ่ง อย่างที่ได้บอกไปว่า ตัว PR subclass 191 จะใช้ได้ตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน 2022 เป็นต้นไป และจะต้องถือวีซ่าทักษะชั่วคราว subclass 491 หรือ 494 มาก่อน โดยตัว 491 และ 494 จะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้...ก็เท่ากับว่าจะต้องถือวีซ่าทักษะชั่วคราวตัวใหม่นี้เป็นเวลา 3 ปีเป็นอย่างน้อย ถึงจะได้ PR subclass 191

อันที่จริงวีซ่าทั้ง 3 ตัวที่ว่านี้ก็ไม่ได้ต่างไปจากวีซ่าทักษะทั้งแบบชั่วคราวและถาวรแบบเดิมเท่าไหร่นะ...เอาจริงๆที่แตกต่างก็จะเป็นเรื่องในเรื่องของการจำกัดพื้นที่ให้เป็น regional areas ซะมากกว่า จากที่ในปัจจุบันจะต้องมาเช็ครหัสไปรษณีย์กันให้วุ่นวาย แต่ถ้าวีซ่าใหม่ทั้ง 3 ตัวนี้เริ่มใช้เมื่อไหร่ เขตภูมิภาค หรือ regional areas ต่างๆ ก็จะอยู่แทบทั่วออสเตรเลียเลย ขอแค่ไม่อยู่ในเมืองใหญ่ต่างๆ รวมถึงอาณาบริเวณโดยรอบ เดี๋ยวคงต้องอัพเดทกันอีกทีว่าในเรื่องขอบเขตของบริเวณที่เป็นเขตภูมิภาคจะเป็นยังไง

นอกจากจะมีวีซ่าตัวใหม่ให้ใช้ในเดือนพฤศจิกายนนี้แล้ว อิมมิเกรชั่นยังได้ออกมาพูดถึงระบบการนับคะแนนแบบใหม่สำหรับคนที่ยื่นสามารถขอ PR ผ่านทางวีซ่าทักษะได้ด้วยตัวเองอีกด้วย คือ ไม่ได้จะมีการเปลี่ยนแปลงคะแนนขั้นต่ำที่ 60 และ 65 คะแนนสำหรับภูมิภาคท้องถิ่น (regional areas) และพื้นที่ทั่วไปตามลำดับแต่อย่างใดนะ แต่จะเป็นในรายละเอียดของการเพิ่มหมวดหมู่ หรือเพิ่มคะแนนในหมวดหมู่นั้นๆเข้ามาเท่านั้นเอง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะเป็นข่าวดีหรือข่าวร้ายสำหรับคนที่มีคู่ครองหรือมีคนติดตามเข้ามาใน application ของการยื่น PR นั้น เพราะดูเหมือนว่าการนับคะแนนแบบใหม่ที่จะใช้ในเดือนพฤศจิกายนนี้ ดูแล้วจะค่อนข้างเอื้อประโยชน์ให้กับคนโสดหรือคนที่ไม่ต้องมีคนมาติดตามใน application ยังไงก็ไม่รู้...เดี๋ยวเรามาดูกันว่าที่จะเพิ่มเข้ามาเนี่ยะ มันมีอะไรกันบ้าง
  • more points for having a skilled spouse or de facto partner (10 points)
  • more points for applicants nominated by a State or Territory government or sponsored by a family member residing in regional Australia (15 points)
  • more points for having certain STEM qualifications (10 points)
  • points for applicants who do not have a spouse or de facto partner (10 points)
  • points for applicants with a spouse or de facto partner who has competent English (5 points)
บทความฉลองวันเลือกตั้งในฉบับนี้ก็จะประมาณนี้แหล่ะ เดี๋ยวก็จะส่งท้ายเหมือนเดิมด้วยลิงค์ข้อมูลต่างๆให้ตามไปวาร์ปกัน เผื่อบางคนอยากจะหาอ่านข้อมูลจากแหล่งที่มาจะได้ไปอ่านกันได้ถูก และจะได้เป็นหลักประกันให้น้าด้วยว่าที่เอามาเขียนเนี่ยะ มีข้อมูลที่มาที่ไปนะเฟร้ยยย ไม่ได้นั่งเทียนมโนเอาเอง

จบๆกันไปในฉบับนี้ด้วยช่องทางการติดต่อเข้ามาสอบถามข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ของ CPSydney office กันเหมือนเดิม...สำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องวีซ่าอยู่ไม่ว่าจะเป็นวีซ่านักเรียน วีซ่าครอบครัว หรือวีซ่าทักษะต่างๆ ก็กดมาปรึกษาสามารถปรึกษากับ Migration agent ของ CPSydney office ที่สามารถพูดได้ทั้งภาษาไทย ภาษาจีน และภาษาอังกฤษได้เลยที่ +61 2 9267 8522 หรือต่อให้จะไม่มีปัญหาอะไร แต่สนใจอยากได้คำแนะแนวเกี่ยวกับหลักสูตรการเรียนต่างๆ ก็สามารถติดต่อโทรเข้ามาสอบถามกันได้ที่เบอร์เดียวกันนี้เหมือนกันนะ ถ้าเป็นสาย social ก็ทักกันมาที่ www.facebook.com/cpsyd หรือ LINE ID: cpsydney2 ก็ได้ สะดวกติดต่อทางไหนก็เลือกเอาทางนั้น ตามใจชอบ

ปล. อย่าลืม LIKE เพจเพื่อติดตามข้อมูลทุนการศึกษา โปรโมชั่นต่างๆ หรือเรื่องอื่นๆที่น่าสนใจเกี่ยวกับออสเตรเลียกันที่ลิงค์ Facebook page ด้านบนกันได้นะครับ #ด้วยความปรารถนาดีจากCPSydney

วางแผนการเรียนอย่างถูกต้อง คำนึงถึงอนาคตของที่ดีของทุกคนในระยะยาว CPSydney สิคะ...วีซ่านักเรียน วีซ่าทักษะ วีซ่าทำงาน และวีซ่าครอบครัวประเภทต่างๆ #AllServicesYouNeedEndHere

#น้าหนวด

วันพุธที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

Tourist Visa ก็เคี่ยวไม่แพ้กัน และนโยบายใหม่สู่การเป็น PR ผ่านทาง Regional areas

สวัสดีต้อนรับเดือนพฤษภาคมจร้าาา...เริ่มต้นฉบับปฐมฤกษ์ของเดือนนี้ด้วยข่าวด่วนข่าวร้ายที่ต้องมาแจ้งเตือนให้หลานๆได้ทราบกันอย่างทันท่วงทีเกี่ยวกับวีซ่าท่องเที่ยว

อย่างที่ทราบกันดีแหล่ะว่าหลายๆคนต้องการมาออสเตรเลียด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันออกไป (อันนี้ไม่อยากจะว่ากันซักเท่าไหร่ เพราะต่างกรรมต่างวาระ...แต่ทุกๆที่มันมีกฏและเงื่อนไขที่ต้องปฏิบัติตาม ก็อยากให้เข้าใจตรงกันด้วย) ทำให้หลายๆคนต้องหาหนทางดิ้นรนที่จะเอาตัวเข้ามาอยู่ในประเทศนี้ให้ได้ และด้วยความที่วีซ่าต่างๆมันยากขึ้นรวมถึงวีซ่านักเรียนด้วยในช่วงหลัง ทำให้หลายๆคนเกิดความคิดที่จะเอาดีทางด้านวีซ่าท่องเที่ยวเพื่อให้ได้เข้ามาอยู่ในประเทศนี้ให้ได้ก่อน แล้วค่อยมาเปลี่ยนเป็นวีซ่าต่างๆในภายหลัง จนพลอยทำให้วีซ่าท่องเที่ยวเองก็ยากขึ้นไปด้วยในทุกวันนี้ (ขอไม่ลงลึกในรายละเอียดละกันนะครับ) การพิจารณาวีซ่าท่องเที่ยวที่ยากขึ้นก็แย่แล้ว แต่เจ้ากรรม วันนี้สดๆร้อนๆเลยนะจ๊ะ เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านกฏหมายวีซ่า (Migration agent) ของทาง CPSydney office เพิ่งได้รับสายจากลูกค้าที่โทรมาแจ้งให้เราทราบว่า "ถูกยกเลิกวีซ่าท่องเที่ยว" จากสถานทูตออสเตรเลียในประเทศไทย โดยให้เหตุผลเกี่ยวกับระยะเวลาที่ระบุว่าจะอยู่ในออสเตรเลียและงานที่จะกลับไปทำหลังจากเที่ยวเสร็จ

จากเรื่องข้างต้น น้าก็ได้รับคำแนะนำจาก Migration agent ให้มาแจ้งเตือนให้ทุกคนได้ทราบกัน โดยมีคำแนะนำดังต่อไปนี้
  1. อย่าอยู่เกินระยะเวลาที่ระบุไว้ในตอนที่ขอวีซ่าท่องเที่ยว
  2. อย่าลาออกจากงานในภายหลัง หลังจากที่ได้วีซ่าท่องเที่ยวมาแล้ว ดูเหมือนว่าอิมมิเกรชั่นจะสามารถโทรไปเช็คกับทางนายจ้างที่เราระบุไว้ได้
"เตือนแล้วนะ!!!"

หัวข้อแรกที่อยากจะพูดถึงก็มีแค่นี้แหล่ะ แค่อยากจะมาเตือนให้ได้รู้กันไว้...น้าก็ตอบไม่ได้หรอกว่าอิมมิเกรชั่นจะเช็คและเข้มงวดกับทุกเคสหรือเปล่า หรือลูกค้าคนนี้อาจจะโชคร้ายดวงแตกโดนสุ่มขึ้นมาพอดี แต่ก็อย่างที่บอกแหล่ะว่า "เตือนแล้วนะ" ยังไงก็ปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่าเนอะ

ไปต่อกันอย่างรวดเร็วกับข่าวที่ประกาศออกมาตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา (ขอโทษที่เพิ่งได้มาเขียนให้ได้อ่านกัน แต่ก่อนหน้านี้มันมีเรื่องที่สำคัญกว่าที่ต้องเขียนจริงๆ...หาอ่านบทความเกี่ยวกับวีซ่าพ่อแม่ชั่วคราวตัวใหม่ และ Sponsorship Approval ได้ที่ https://visatalkbycpsydney.blogspot.com/) ซึ่งใจความหลักของประกาศดังกล่าวจะเป็นนโยบายที่ผลักดันให้คนไปอยู่ในบริเวณ regional areas มากขึ้น โดยเอาเส้นทางสู่การเป็น Australian Permanent Residency เป็นตัวกระตุ้นในนโยบายดังกล่าว เดี๋ยวเรามาดูกันไปทีละหัวข้อเลยว่านโยบายที่ว่านี้มีใจความสำคัญยังไงกันบ้าง
  • ทุนการศึกษาสำหรับการเรียนมหา'ลัยใน regional areas
รัฐบาลจะแจกทุนการศึกษามูลค่า A$15,000 เป็นจำนวนกว่า 1,000 ทุนให้กับนักเรียนทั้ง domestic และ international student ที่เรียนตั้งแต่ระดับปริญญาขึ้นไปกับมหาวิทยาลัยที่อยู่ใน regional areas...นอกจากจะได้ทุนการศึกษาจากทางรัฐบาลแล้ว นักเรียนต่างชาติที่เรียนจบปริญญาจากมหาวิทยาลัยใน regional areas ยังจะได้รับสิทธิพิเศษสามารถขอ Post-study Work Visa ได้เป็นระยะเวลา 3 ปี จากที่ปกติวีซ่าตัวนี้จะมีระยะเวลาแค่เพียง 2 ปีเท่านั้น
  • วีซ่าตัวใหม่สำหรับหนทางที่นำไปสู่ PR ผ่านทาง regional areas
ด้วยนโยบายที่ต้องการผลักดันให้คนไปอยู่ใน regional areas เพื่อกระจายความแออัดในเมืองใหญ่ให้ลดลง รัฐบาลเลยวางแผนที่จะคลอดวีซ่าตัวใหม่เพื่อนำไปสู่การเป็น PR โดยใช้การอาศัยอยู่ใน regional areas เป็นเส้นทางสำหรับผู้ที่ต้องการได้ Australian Permanent Residency ในอนาคต โดยได้กำหนดออกมาคร่าวๆแล้วว่าวีซ่าดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน 2019 เป็นต้นไป
  • โควตาการขอ PR ต่อปี
หัวข้อสุดท้ายอาจจะเป็นอะไรที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก คือ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฏาคม 2019 เป็นต้นไป โควตาการขอ PR จะลดลงเหลืออยู่ที่ 160,000 คนต่อปี เป็นระยะเวลา 4 ปีด้วยกัน โดยแบ่งหลักๆออกเป็น 2 streams ได้แก่ การเป็น PR ด้วยความสามารถและทักษะของตัวเองอยู่ที่จำนวน 108,682 คนต่อปี และการเป็น PR ผ่านทางวีซ่าครอบครัวประเภทต่างอีก 51,318 คนต่อปี

อัพเดทสุดท้ายที่น่าปวดหัวไม่แพ้จำนวนโควตา PR ต่อปีที่ลดลง ก็เป็นเรื่องของ visa application fee...ดูเหมือนว่าอิมมิเกรชั่นจะขึ้นราคาค่าวีซ่าประเภทต่างๆอีกตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2019 เป็นต้นไปอีกแล้วนะครับ แต่รอบนี้ยังดีหน่อย เพราะข่าวที่หลุดออกมาระบุไว้ว่าค่าวีซ่าที่จะถูกปรับให้เพิ่มขึ้น จะเพิ่มขึ้นแค่เพียง 5.4% โดยประมาณจากราคาในปัจจุบัน ก็หวังว่าจะเป็นจริงตามที่ข่าวบอกเนอะ อย่าเพิ่มขึ้นฮวบฮาบเหมือนคราวก่อนอีกละกัน

สุดท้ายก็แหล่งข้อมูลสำหรับบทความในฉบับนี้ เผื่อหลานๆจะวาร์ปไปอ่านกันเองต่อจากต้นตอของข้อมูลที่เอามาเขียนให้ได้อ่านกันในวันนี้

ส่งท้ายฉบับนี้เหมือนเดิม...สำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องวีซ่าอยู่ไม่ว่าจะเป็นวีซ่านักเรียน วีซ่าครอบครัว หรือวีซ่าทักษะต่างๆ ก็สามารถปรึกษากับเจ้าหน้าที่ของ CPSydney office ได้เลยครับ เรามี Migration agent ที่สามารถพูดได้ทั้งภาษาไทย ภาษาจีน และภาษาอังกฤษ หรือสำหรับคนที่ไม่ได้มีปัญหาเรื่องวีซ่าแต่สนใจอยากได้คำแนะแนวเกี่ยวกับหลักสูตรการเรียนต่างๆ ก็สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่แนะแนวการศึกษาของ CPSydney office ได้เลยที่ +61 2 9267 8522 หรือจะทักทายกันมาที่ www.facebook.com/cpsyd หรือ LINE ID: cpsydney2 ก็ได้ สะดวกติดต่อทางไหนก็เลือกได้ตามใจชอบ

ปล. อย่าลืม LIKE เพจเพื่อติดตามข้อมูลทุนการศึกษา โปรโมชั่นต่างๆ หรือเรื่องอื่นๆที่น่าสนใจเกี่ยวกับออสเตรเลียกันที่ลิงค์ Facebook page ด้านบนกันได้นะครับ #ด้วยความปรารถนาดีจากCPSydney






















วางแผนการเรียนอย่างถูกต้อง คำนึงถึงอนาคตที่ดีของทุกคน CPSydney สิคะ...วีซ่านักเรียน วึซ่าทำงาน และวีซ่าครอบครัวต่างๆ #AllServicesYouNeedEndHere #CPSydneyชื่อนี้มีแต่ให้








#น้าหนวด