สวัสดีจร้าาา เด็กๆ น้าหนวดกลับมาแล้วนะจ๊ะ หายหน้าหายตากันไปนานเลย...วันนี้จะแวะมาอัพเดทบอกเกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆชิมลางให้ได้อ่านกันไปก่อน
ก็ตอนนี้สถานการณ์โดยรวมของ COVID-19 ในออสเตรเลียก็ถือได้ว่าดีขึ้นมากๆแล้ว น้าก็หวังใจว่าทุกอย่างจะกลับมาเป็นปกติในเร็ววันนี้แหล่ะ ใครที่ตัดสินใจอยู่ต่อยังไม่กลับก็กลั้นใจกันอีกสักนิด และก็อย่าลืมปฏิบัติตามเงื่อนไขของ social distancing กันอย่างเคร่งครัดด้วยนะครับ อย่าลืมเรื่องสุขอนามัยอย่างการล้างมือบ่อยๆ ส่วนเรื่องหน้ากากอนามัย หรือ Face shield ก็แล้วแต่สะดวกกันเลย ใส่ก็ไม่ผิด ไม่ใส่ก็ไม่ผิด
เชื่อว่าคนส่วนใหญ่คงจะไม่ได้คุ้นเคยกับ Bridging Visa E (BVE) กันสักเท่าไหร่ คือ มันก็ไม่ใช่วีซ่าที่อยู่ดีๆ ควรจะไปยื่นขอหรอก หลักๆที่จะคุ้นเคยก็จะมีอยู่แค่ไม่กี่กรณี อาทิเช่น
- ยื่นวีซ่าไม่ทันก่อนที่วีซ่าตัวปัจจุบันจะหมด ก็ต้องยื่นเข้าไปภายใน 30 วัน เพื่อขอยื่นวีซ่าตัวใหม่
- โดนยกเลิกวีซ่ากลายเป็น PE (ศัพท์วัยรุ่นเค้าเรียกกัน น้าก็จำมาอีกที) แต่อยากจะขอเดินทางกลับประเทศบ้านเกิดอย่างถูกต้อง
- แล้วก็อันนี้ทำกันเยอะเลย คือ โดนเอเจนท์หลอกให้ยื่น Protection visa (บางคนก็ไม่ได้โดนหลอก เต็มใจยื่นเลยแหล่ะ) อันนี้ก็ไม่ได้อยากว่า ก็เข้าใจว่ามีเหตุผลและความจำเป็นไม่เหมือนกัน แต่มันกระทบกับคนอื่นๆไง เข้าใจป่ะ
...บอกก่อนเลยว่า BVE ไม่มีค่าวีซ่านะจ๊ะ...
ปกติ (กรณีแรก) ถ้าได้ BVE มา ก็จะได้เงื่อนไขการทำงานตามเดิมจากวีซ่าตัวเก่าที่เคยถือ แต่ถ้าเป็นในกรณีที่เป็น PE มานานนมจนจำไม่ได้ว่าเป็นคนล่าสุดเมื่อไหร่ อันนี้ถ้า BVE ผ่าน จะไม่สามารถทำงานได้นะครับ แต่เดชะบุญ สำหรับตอนนี้ที่มีสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 อยู่ ทางเจ้าหน้าที่อิมมิเกรชั่นก็ใจดีเป็นพิเศษ ให้คนที่ถือ BVE สามารถทำงานได้ หลักฐานก็ดูจากรูปด้านล่างที่น้าได้ยื่นให้ลูกค้าท่านหนึ่งในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมานี่เองครับ
ก็จะเห็นในกรอบสีแดงที่ตั้งใจตีกรอบไว้ให้เห็นว่า "The Visa Holder has unlimited Work Entitlements" คร่าวๆความเป็นไปเป็นมาของเคสนี้ก็คือ น้องเมย (นามสมมติ) ได้ถูกปฏิเสธวีซ่านักเรียน และ การอุทธรณ์จากการทำเรื่องมาจากเอเจนท์หนึ่ง แล้วด้วยสถานการณ์ที่เราเห็นและเป็นกันอยู่ ทำให้น้องเมยยังไม่สามารถเดินทางกลับไทยได้ เลยติดต่อสอบถามน้าหนวดเกี่ยวกับการยื่น BVE เพราะไม่อยากเป็น PE หลังจากที่น้าได้ปรึกษากับผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้ทางด้านกฎหมายการย้ายถิ่นฐาน (Migration agent ของที่ออฟฟิศ) อันนี้ก็อยากจะให้ความรู้เพิ่มเติมกับพี่ๆน้องๆคนไทยว่า Migration agent ไม่ใช่ทนาย (Lawyer)นะครับ เพราะเรียกผิดกันเยอะมาก
สุดท้ายก็ได้ความมาว่าต้องยื่น BVE ให้น้องเมยหลังจากที่ Briding Visa A (BVA) ของน้องเมยหมด ก็เลยได้ยื่น BVE ให้ในวันที่ 27/05/2020 ด้วยหลักฐานเอกสารทั่วไปพร้อมกับคำอธิบาย และหลักฐานอื่นๆเพิ่มเติมที่พิสูจน์ว่าน้องเมยไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้จริงๆในช่วงนี้ ผ่านไปแค่ 2 วันเท่านั้นแหล่ะ น้องเมยก็ได้ BVE ออกมาตามหลักฐานข้างต้นในวันที่ 29/05/2020 โดยนอกจากจะสามารถทำงานได้แล้ว น้องเมยยังได้ระยะเวลาอยู่ในออสเตรเลียต่ออย่างถูกต้องอีกค่อนข้างนานพอสมควร เพราะสามารถอยู่ในออสเตรเลียได้จนถึงวันที่ 26/11/2020 เลยทีเดียวครับ...อนึ่ง ต้องบอกเพิ่มเติมก่อนด้วยว่า น้องเมยมีได้รับโทรศัพท์สัมภาษณ์จากเจ้าหน้าที่เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมก่อนที่จะได้รับ BVE ในช่วงเย็นของวันที่ 29/05/2020 ด้วยนะ จากการบอกเล่าของน้องเมย เจ้าหน้าที่เขาก็ถามละเอียดพอสมควรเกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัวต่างๆ รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับที่ทำงานด้วย แต่ก็ไม่ได้เป็นข้อมูลเชิงลึกที่ยากจนไม่สามารถตอบได้ด้วยตัวเองครับ
อีกเรื่องที่อยากจะให้เขียนได้อ่านกันในฉบับนี้ตามที่จั่วหัวไว้ก็คือในเรื่องของการนับแต้มสำหรับการยื่นขอ PR ด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นผ่านทาง subclass อะไรก็ตาม...ถ้าพอคุ้นๆกันนะ อิมมิเกรชั่นได้เพิ่มหมวดหมู่การนับแต้มสำหรับการยื่น PR ด้วยตัวเองมาตั้งแต่ในช่วงปลายปี 2019 ที่ผ่านมาละ หมวดหมู่ที่เพิ่มเติมเข้ามาที่น่าสนใจมากๆสำหรับทุก subclass ก็จะมี 2 หมวดหมู่นี้ครับ
- Partner skills ไม่ได้หมายถึงว่าต้องมีคู่ครองถึงจะได้คะแนนเพิ่มนะครับ สามารถแยกย่อยออกมาได้ดังนี้
- 10 คะแนน สำหรับการยื่นคนเดียวแบบโสดๆ
- 10 คะแนน สำหรับคนที่มีคนติดตาม และคนติดตามก็มี skill ทักษะเดียวกัน (มีเงื่อนไขอื่นๆเพิ่มเติมด้วย)
- 5 คะแนน สำหรับคนที่มีคนติดตาม และคนติดตามมีผลวัดระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษในระดับ competent English (เทียบเท่า IELTS 6.0 ทุกแบนด์)
- Specialist education qualification (10 คะแนน) เรียนจบเฉพาะทางในระดับ Master degree by research หรือ Doctorate degree จากสถาบันในออสเตรเลีย โดยจะต้องเป็นหลักสูตรไม่ต่ำกว่า 2 ปี สาขาเฉพาะทางที่จะได้คะแนนเพิ่ม ได้แก่ Science, Technology, Engineering, Mathematics or specified Information and Communication Technology (ICT)
นี่ยังไม่ได้รวมอีก 15 คะแนน สำหรับคนที่ยื่นใน subclass 489 หรือ subclass 491 ที่ได้รับการ nominated จากรัฐใน regional area หรือ sponsored จากบุคคลในครอบครัวที่อาศัยอยู่ใน regional area อีกด้วยนะ
เห็นรึยังว่าโอกาสการเป็น PR ยังไม่ได้หมดลงซะทีเดียว "เลือกอาชีพที่ใช่สำหรับตัวเอง 👨💼 วางแผนการเรียนให้ถูกต้อง 📖 PR ที่หวังไว้ก็ยังมีโอกาสอยู่นะ 🇦🇺"
ฉบับนี้ก็เอาแค่นี้ก่อนแหล่ะ ให้ได้อ่านกันพอหอมปากหอมคอกันไปก่อน เดี๋ยวฉบับหน้าจะเขียนอะไรให้ได้อ่านก็รอติดตามชมกันได้นะจ๊ะ
ทิ้งท้ายบทความด้วยช่องทางการติดต่อของ CPSydney office กันอย่างเช่นเคย ตอนนี้ที่ออฟฟิศกลับมาให้บริการเป็นปกติแล้ว (วันจันทร์ ถึง วันศุกร์ ตั้งแต่ช่วงเวลา 9.00 - 17.15 น.) สามารถโทรมาสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับวีซ่าประเภทต่างๆได้ที่ 02 9267 8522 หรือถ้าเป็นสาย social ก็ทักกันมาที่ Facebook page www.facebook.com/cpsyd หรือที่ LINE ID: cpsydney2 ก็ได้ครับ
สุดท้ายก็ฝากกด LIKE หรือ FOLLOW เพจกันด้วย จะได้ติดตามข่าวสารข้อมูลต่างๆที่เป็นประโยชน์ไม่ว่าจะเป็นทุนการศึกษา โปรโมชั่นต่างๆ และเรื่องอื่นๆที่น่าสนใจเกี่ยวกับวีซ่าออสเตรเลีย รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวและข่าวสารต่างๆในออสเตรเลียกันได้ครับ...สำหรับฉบับนี้ต้องขอลาไปก่อน แล้วเจอกันใหม่ฉบับหน้า สวัสดีครับ
แหล่งข้อมูลอ้างอิง