วันพฤหัสบดีที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2559

วีซ่านักเรียนออสเตรเลียรูปแบบใหม่ (SSVF)

สวัสดีครับ ก่อนอื่นขอแนะนำตัวกันก่อนกับ Visa Talk by CP Sydney...เราเป็นบริษัทเอเจนท์ตัวแทนที่ให้ความรู้คำแนะนำเกี่ยวกับการศึกษาต่อและอพยพถิ่นฐานมายังประเทศออสเตรเลียนะครับ โดยบทความในฉบับแรกนี้ก็จะเป็นตามหัวข้อเลยนะครับ "วีซ่านักเรียนออสเตรเลียรูปแบบใหม่ SSVFซึ่งที่จริงแล้วก็ได้ประกาศใช้มาพักนึงแล้วแหล่ะตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2559 ที่ผ่านมา แต่ถ้าหากใครยังไม่รู้ว่าวีซ่านักเรียนออสเตรเลียรูปแบบใหม่เป็นยังไง ก็ลองอ่านบทความนี้ดูกันได้เลยนะครับ

วีซ่านักเรียนออสเตรเลียรูปแบบใหม่จะมีชื่อเรียกว่า Simplified Student Visa Framework (SSVF) โดยเจ้าระบบใหม่ตัวนี้จะมีผลบังคับใช้สำหรับผู้ที่จะยื่นวีซ่าหลังจาก วันที่ 1 กรกฎาคม 2559 เป็นต้นไปจ่ะ โดยที่การเปลี่ยนแปลงหลักๆก็จะมีดังต่อไปนี้ครับ

1. เป็นการยื่นวีซ่าผ่านระบบ online เท่านั้น จะไม่มีการยื่นเป็นเอกสารเข้าไปให้อิมฯอีกต่อไป...แต่จากการที่ประเทศไทยเพิ่งถูกเพิ่มให้เป็นประเทศที่ต้องมีการเก็บข้อมูล Biometrics ทำให้หลังจากที่ยื่นวีซ่าเข้าไปเราจะต้องไปถ่ายรูปและเก็บลายนิ้วมือไว้เป็นฐานข้อมูลในการยื่นวีซ่ากับทาง VFS ครับ (ตอนนี้ที่ไทยมีอยู่แค่ 2 ที่คือ กรุงเทพฯ และ เชียงใหม่)

2. ไม่มีการแบ่งวีซ่านักเรียนออกเป็น subclass ตามหลักสูตรการเรียนที่สมัครมาอีกแล้ว ต่อไปนี้นักเรียนทุกคนจะถือ subclass เดียวกันหมด คือ subclass 500 แต่จะมีการแบ่งความเสี่ยงออกเป็น 2 ประเภทจากสถาบันที่สมัครเรียน และสัญชาติที่ถือตามพาสปอร์ต โดยจะมีผลต่อการเตรียมเอกสารในการยื่นวีซ่า ดังนี้
  • กลุ่มความเสี่ยงต่ำ (Streamlined: S) นักเรียนที่อยู่ในกลุ่มนี้จะไม่ต้องโชว์หลักฐานทางการเงินและผลวัดระดับความสามารถทางภาษา (แต่อาจจะมีการขอเอกสารเพิ่มเติมภายหลัง หากทางเจ้าหน้าที่ไม่เชื่อว่าเรามีจุดประสงค์ที่จะมาเรียนจริงๆ)
  • กลุ่มความเสี่ยงสูง (Regular: R) กลุ่มนี้จะต้องยื่นเอกสารทุกอย่างให้ครบตั้งแต่แรกรวมถึงหลักฐานทางการเงินและผลวัดระดับความสามารถทางภาษา หากยื่นไม่ครบเจ้าหน้าที่อิมฯมีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธเคสได้ทันทีโดยที่ไม่มีการเรียกขอเอกสารเพิ่มเติม หรือในอีกกรณีอิมฯเขาอาจจะไม่พิจารณาเคสของเราเลยก็ได้
3. การเปลี่ยนคอร์สเรียนจะสามารถทำได้ในกรณีเดียวคือการเปลี่ยนจากหลักสูตรปริญญาเอกลงมาเป็นระดับปริญญาโทเท่านั้น ถ้าเป็นการเปลี่ยนระดับการเรียนให้ต่ำลงจากกวีซ่าที่ถืออยู่จะต้องยื่นวีซ่าใหม่ให้ตรงกับคอร์สใหม่ที่จะไปเรียน ถ้าไม่เปลี่ยนให้ตรงกันจะถือว่าทำผิดเงื่อนไขของวีซ่าทำให้ถูกยกเลิกวีซ่าตัวดังกล่าวหรือไม่ก็จะมีผลต่อการขอวีซ่าในครั้งถัดไป

นี่ก็จะเป็นการเปลี่ยนแปลงหลักๆนะครับ เพราะฉะนั้นการเลือกสถาบันกับสัญชาติของนักเรียนจะมีผลต่อการขอวีซ่าเป็นอย่างมาก ยังไงลองดูรูปปลากรอบ เอ๊ยยยย รูปประกอบด้านล่าง เพื่อจะได้เข้าใจการแบ่งความเสี่ยงของระบบ SSVF กันมากขึ้นนาจาาา
จากตารางก็จะเห็นว่าสถาบันและสัญชาติจะถูกแบ่งออกเป็นทั้งหมด 3 ระดับด้วยกัน ซึ่งส่งผลการเตรียมเอกสารจะแบ่งออกเป็น S กับ R ตามที่ได้บอกไปในตอนแรก ซึ่งเพื่อนๆน้องคนไทยยังโชคดีที่อยู่ในระดับ 2 ทำให้อาจจะไม่มีผลกระทบกับการเตรียมเอกสารมากนักนะครับ แต่อย่างที่บอกไปว่า ในกรณีที่อิมฯเขาสงสัยหรือไม่เชื่อว่าเรามีจุดประสงค์ที่จะมาเรียนจริงๆ นักเรียนคนนั้นก็อาจจะถูกเรียกสัมภาษณ์และต้องเตรียมเอกสารเพิ่มเติมดังนี้จร่ะ
1. เอกสารทางการเงิน โดยจะสามารถเลือกได้จาก 3 อย่างดังต่อไปนี้
  • Bank statement ย้อนหลัง 6 เดือน จากผู้สนับสนุนทางการเงินที่จะต้องครอบคลุมค่าใช้จ่ายในออสเตรเลียเป็นระยะเวลา 1 ปี (ตัวเลขค่าใช้จ่ายต่อปีจะถูกกำหนดโดยอิมฯ), ค่าเดินทาง (ตั๋วเครื่องบิน), และค่าเทอมที่เหลือในปีแรก ตัวอย่างเช่น น้องศักรินทร์ลงเรียนคอร์สภาษาอังกฤษพ่วงมากับหลักสูตร diploma จะต้องมีเงินโชว์ในยอดสุดท้ายประมาณ A$19,830 + A$850 + A$4,500 = A$25,180 โดยประมาณ (อันนี้เอาไปคูณกลับเป็นเงินไทยกันเองนะจ๊ะ)
  • ผู้สนับสนุนต้องมีหลักฐานที่ระบุว่ามีรายรับต่อไม่ต่ำกว่า A$60,000 สำหรับนักเรียน 1 คน หรือจะต้องมีรายได้ต่อปีไม่ต่ำกว่า A$70,000 สำหรับนักเรียนที่มีคนติดตามมาด้วยอีก 1 คน
  • ฟอร์มตอบรับการเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนในระดับมัธยมศึกษา
2. ผลวัดระดับความสามารถทางภาษา IELTS หรือเทียบเท่า โดยที่ควรจะได้คะแนนประมาณ 4.5 overall สำหรับ IELTS นะครับ แต่ก็ยังมีข้อยกเว้นในกรณีของ
  • ผู้สมัครได้เรียนในหลักสูตรที่มีการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษเป็นเวลา 5 ปีเป็นอย่างน้อยในประเทศออสเตรเลีย แคนาดา แอฟริกาใต้ สาธรณรัฐไอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร หรือสหรัฐอเมริกา
  • มีวุฒิฯการศึกษาในระดับมัธยมปลาย หรือ Certificate IV หรือสูงกว่าจากสถาบันการศึกษาในออสเตรเลียที่มีการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษเป็นเวลาอย่างน้อย 2 ปีก่อนที่จะยื่นวีซ่า subclass 500
นี่ก็จะเป็นการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับวีซ่ารูปแบบใหม่ที่มีผลบังคับใช้ไปแล้วนะครับ จริงอยู่ที่ว่าอาจจะไม่มีผลกระทบกับน้องๆเพื่อนๆนักเรียนคนไทยสักเท่าไหร่ แต่ถ้าจะเอาให้ปลอดภัยที่สุดเราก็ควรจะมีหลักฐานทุกอย่างพร้อมไว้ตั้งแต่ตอนแรกที่จะยื่นเอกสารเข้าไป อย่าไปหลงเชื่อคำบางเอเจนท์ที่การันตีบอกว่าไม่ต้องหลักฐานทางการเงินผ่านชัวร์ 100% คือถ้าเราไม่ได้ลงเรียนในสถาบันที่อยู่ในระดับที่ 1 เราก็ยังมีสิทธิ์โดนขอเอกสารเพิ่มเติม 2 ตัวนี้ได้ทุกเมื่อครับ เพราะฉะนั้นปลอดภัยไว้ก่อนจะดีกว่า

สำหรับบทความปฐมฤกษ์ชิ้นแรกนี้ หากน้องๆเพื่อนๆมีคำตำหนิติชมเพิ่มเติมใดๆก็แนะนำกันเข้ามาได้เลยนะครับ หรือหากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับการมาเรียนต่อในประเทศออสเตรเลียก็ติดต่อเรามาได้ที่ +61 2 9267 8522 (สำหรับเบอร์โทรในออสเตรเลีย) หรือจะกดไลค์เข้ามาติดตามดูข้อมูลข่าวสารโปรโมชั่นดีๆจากทาง CP Sydney ได้ที่ www.facebook.com/cpsyd ก็สามารถทำได้เช่นกันนะครับ...ไว้เดี๋ยวคราวหน้าจะนำเรื่องราวดีๆที่เป็นประโยชน์มาเล่าให้ฟังอีก สำหรับวันนี้ลาไปก่อน สวัสดีจร้าาา
น้าหนวดCPSydney

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น