ตามที่น้าหนวดได้ให้สัญญาไว้ในฉบับที่แล้วว่าจะมาเขียนเกี่ยวกับวีซ่าคู่ครอง เรื่องรักๆใคร่ๆ ต้อนรับวันแห่งความรัก 14 กุมภาพันธ์ให้ได้อ่านกัน...ก็ตามสัญญาครับ ลองอ่านกันดูครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆผู้อ่านบ้างไม่มากก็น้อย เชิญอ่านกันได้เลยจร้าาา
วีซ่าคู่ครอง (Partner Visa) แบ่งง่ายๆเป็น 2 ประเภทตามการยื่นวีซ่า ได้แก่ ยื่นจากในประเทศออสเตรเลีย และ ยื่นจากนอกประเทศออสเตรเลีย
โดยการยื่น จากในประเทศออสเตรเลีย
ก็จะต้องทำการยื่นทั้งหมด 2 ขั้นตอนคือ
- ผู้สมัครจะยื่นวีซ่าคู่ครองแบบชั่วคราว Subclass 820 Partner (Temporary) หลังจากที่ได้ตัว 820 มาแล้วจนครบเป็นเวลา 2 ปี ก็ค่อยทำขั้นตอนถัดไป
- ยื่นขอวีซ่าคู่ครองแบบถาวร Subclass 801 Partner (Residence)
ส่วนในกรณีของการยื่น
จากนอกประเทศออสเตรเลีย จะแตกต่างออกไป สามารถแยกย่อยออกได้เป็นอีก 2
ทางคือ
- ทำวีซ่าคู่ครองชั่วคราว Subclass 309 Partner (Provisional) แล้วค่อยเป็นวีซ่าคู่ครองแบบถาวร Subclass 100 Partner (Migrant)
- ทำวีซ่าคู่หมั้น Subclass 300 Prospective Marriage (Temporary) มาก่อนโดยจะต้องมีแพลนการแต่งงานภายใน 9 เดือนเมื่อมาถึงในออสเตรเลีย หลังจากนั้นก็จะเข้าสู่กระบวนการของวีซ่าคู่ครองแบบชั่วคราว Subclass 820 Partner (Temporary) และ วีซ่าคู่ครองแบบถาวร Subclass 801 Partner (Residence) ในภายหลัง
ถ้ายัง งงงวย อึนอึน ว่าเรากำลังพูดถึงเรื่องอะไร...เอาเป็นว่าลองอ่านตัวขยายความของแต่ละ subclass ทั้ง 5 ด้านล่างของน้าหนวดดูอีกที น่าจะช่วยได้นะเออ
- Subclass 300 Prospective marriage (Temporary) – วีซ่าคู่หมั้น
เรียกสั้นๆว่าวีซ่าคู่หมั้น เพราะว่าผู้สมัครต้องมีแพลนที่จะแต่งงานที่ออสเตรเลียภายใน 9 เดือนเมื่อเดินทางมาถึงออสเตรเลีย หลังจากนั้นก็ค่อยยื่นวีซ่าตัวถัดไป 820 Partner (Temporary) หรือวีซ่าคู่ครองชั่วคราวในภายหลัง
- Subclass 820 Partner (Temporary) - วีซ่าคู่ครอง (แบบชั่วคราว)
วีซ่าประเภทนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยื่นวีซ่าคู่ครองในประเทศออสเตรเลีย
หรือผู้ที่ถือ subclass 300 มาจากนอกประเทศออสเตรเลีย โดยผู้สมัครต้องมีคุณสมบัติดังนี้
- ต้องแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ฉันท์สามี-ภรรยา ที่เป็นจริง หลังจากการแต่งงานในประเทศออสเตรเลีย หรืออยู่ในความสัมพันธ์ de facto มามากกว่า 12 เดือน โดยสามารถทำได้ทั้งกับความสัมพันธ์แบบเพศเดียวกันและต่างเพศ
- Subclass 801 Partner (Residence) - วีซ่าคู่ครอง (แบบถาวร)
วีซ่าตัวนี้เป็นวีซ่าขั้นที่ 2 ต่อจากวีซ่า 820 พอถึงขั้นนี้ก็ CONGRATULATIONS ขอแสดงความยินดีด้วยคร่ะ คุณได้เป็น PR แล้วนะซิ แต่ทั้งนี้ก่อนที่จะมาถึงขั้น 801 คุณๆทั้งหลายจะต้องถือตัว 820 และพิสูจน์ความสัมพันธ์ที่เป็นจริงเป็นเวลาอย่างน้อย 2 ปีกับคู่ครองหรือสปอนเซอร์ที่ทำการสปอนเซอร์เราในขั้น 801 จึงจะได้วีซ่าตัวนี้มา...เพราะฉะนั้นเบ็ดเสร็จก็รอไปทั้งหมดเกือบ 3-4 ปีเป็นอย่างน้อยถึงจะได้เป็น PR นะเออ (อันนี้ยังไม่นับรวมระยะเวลารอวีซ่า หรือ processing time ในแต่ละขั้นตอนนะ)
- Subclass 309 Partner (Provisional) - วีซ่าคู่ครอง (แบบชั่วคราว)
โดยทำการยื่นมาจากนอกประเทศออสเตรเลีย วีซ่าคู่ครอง (ชั่วคราว) ตัวนี้ จะต้องจากนอกประเทศออสเตรเลียเท่านั้น เพราะฉะนั้นคนที่อยู่ในออสเตรเลียไม่มีสิทธิ์ ถ้าไม่สนิทอย่าติดว้าวนะเออ555...โดยคุณสมบัติของผู้สมัครและสปอนเซอร์จะต้องแต่งงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
หรือมีความสัมพันธ์ฉันท์สามี-ภรรยาด้วยกันเป็นเวลา 12 เดือนเป็นอย่างน้อย หรือจดทะเบียนความสัมพันธ์แบบเพศเดียวกันและต่างเพศก็ได้ ก่อนหน้าที่จะยื่นวีซ่า
- Subclass 100 Partner (Migrant) - วีซ่าคู่ครอง (แบบถาวร)
เมื่อผู้สมัครแสดงให้ทางอิมฯเห็นว่าความสัมพันธ์นั้นเป็นความสัมพันธ์ที่แท้จริง
และยังอยู่ในความสัมพันธ์ร่วมกันกับสปอนเซอร์ 2 ปีนับจากวันที่ยื่น 309 ทางอิมฯก็จะออกวีซ่าประเภทนี้ให้...เมื่อมาถึงขั้นนี้ก็เหมียนเดิม ดีใจด้วยค่ะ คุณได้เป็น PR แล้ว
อ่านกันไปแล้วว่าวีซ่าคู่ครองมีกี่ประเภท อะไรบ้าง และมีขั้นตอนอย่างไร...ก็ข้ามมาอัพเดทข่าวคราวเกี่ยวกับวีซ่าคู่ครองที่มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในช่วงปลายปี
2016
ที่ผ่านมากันบ้างดีฝ่าาา คือ ตอนนี้อิมมิเกรชั่นได้เพิ่มกฎขึ้นมาว่าชาวออสเตรเลียที่ต้องการจะสปอนเซอร์คู่หมั้นหรือคู่รักในการยื่น Partner visa หรือ Prospective Marriage visa จะต้องทำการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมด้วย ไม่ว่าจะมีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีติดตามมาด้วยหรือไม่ก็ตาม
ทั้งนี้ก็เป็นเพราะว่าระยะหลังมีอัตราการหย่าร้างเพิ่มขึ้น โดยมักจะมีเหตุผลมาจากความรุนแรงในครอบครัว (DOMESTIC VIOLENCE) รัฐบาลออสเตรเลียจึงเพิ่มกฎใหม่ข้อนี้เข้ามาเพื่อคุ้มครองผู้สมัครยื่นวีซ่าอย่างจริงจัง
โดยให้มีผลบังคับใช้กับ Partner visa
application ตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายน 2016 ที่ผ่านมา ซึ่งคดีที่มีผลต่อการถูกปฏิเสธวีซ่า ได้แก่
- คดีที่เกี่ยวกับความรุนแรง เช่น ฆาตกรรม การทำร้ายร่างกาย ความรุนแรงทางเพศ และการข่มขู่
- การล่วงละเมิดและการลวนลามทางเพศ
- ความผิดต่อคำสั่งศาลเกี่ยวข้องกับความรุนแรง
- การใช้อาวุธอันตราย
- การลักลอบนำคนเข้าประเทศโดยผิดกฏหมาย
- การค้ามนุษย์ ลักพาตัว และกักขังหน่วงเหนี่ยวอย่างผิดกฏหมาย
- รวมไปถึงผู้ที่พยายามจะทำความผิด หรือ ให้ความช่วยเหลือ คำปรึกษาหรือดำเนินเรื่องเกี่ยวกับคดีดังกล่าว
ตบท้ายข้อมูลเกี่ยวกับวีซ่าคู่ครองด้วยข้อแนะนำเบื้องต้นจากคุณหมอวีซ่า
สำหรับคนที่กำลังเตรียมตัวหรือมีแผนที่จะยื่นวีซ่าคู่ครองในอนาคตอันใกล้นี้ซักหน่อย
- ควรอ่านกฎเกณฑ์กับนโยบายที่รัฐบาลกำหนดไว้ให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ชัดเจนเสียก่อน เริ่มต้นศึกษาข้อมูลให้ละเอียดถี่ถ้วน อย่าไปเชื่อใครง่ายๆ หากจะใช้เอเจนท์ก็ควรตรวจดูให้แน่ใจว่าเอเจนท์ที่จะเลือกใช้ได้ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องกับองค์กรของรัฐฯที่ชื่อว่า Office of the Migration Agents Registration Authority (OMARA) หรือไม่ โดยสามารถตรวจสอบได้ที่ https://www.mara.gov.au/using-an-agent/using-a-registered-migration-agent/ ดีกว่าไปเสี่ยงลอยๆ ไปตายเอาดาบหน้า แล้วมีปัญหาในภายหลังนะ
- ควรเป็นเรื่องจริง ใช้เอกสารจริง ไม่ใช่เป็นกรณีเท็จที่เป็นการจ่ายเงินจ้างแต่ง อันนี้เข้มงวดมากๆ ขอร้องว่าอย่าเสี่ยงทำกันเลย ถ้าโดนจับได้มันไม่คุ้มจริงๆ เพราะผู้ยื่นพร้อมสมาชิกครอบครัวที่พ่วงกันมาจะโดนลงโทษตาม Public Interest Criteria (PIC4020) คือจะเกี่ยวกับผู้ยื่นวีซ่าที่ให้ข้อมูลเท็จ ใช้เอกสารที่ปลอม ถ้าถูกจับได้จะไม่มีสิทธิ์ขอวีซ่าเข้าออสเตรเลียได้อีกเป็นเวลาอย่างน้อย 10 ปี ยกเว้นแต่เป็นกรณีที่มีเหตุผลน่าสงสารน่าเห็นใจจริงๆ เท่านั้น
- เตรียมเอกสารให้ดีๆ โดยเฉพาะการเขียนเรื่องราวที่เป็น Statutory Declaration ก็จะต้องเป็นเรื่องจริงทั้งหมด โดยทั่วไปเอกสารกินอยู่ร่วมที่ใช้ประกอบการยื่นเรื่อง ควรจะสะสมด้วยกันมานานอย่างน้อย 6 เดือนขึ้นไป ขึ้นอยู่กับเอกสารของแต่ละคู่ว่ามีอะไรบ้าง ทั้งนี้ระยะเวลาในอุดมคติจริงๆของการเก็บหลักฐานความสัมพันธ์คือ 12 เดือนขึ้นไป เพราะฉะนั้นถ้าไม่ชัวร์อย่าเพิ่งรีบยื่น ช้าๆได้พร้าเล่มงามดีกว่าเยอะ
เขียนถึงวีซ่าคู่ครองแล้ว ก็คงเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่พูดถึงเจ้าตัว De Facto Relationship ที่เป็นวีซ่าติดตามนักเรียนที่นิยมทำกันอย่างแพร่หลาย...เดือนแห่งความรักทั้งที ก็ให้ข้อมูลกันแบบจัดเต็มไปเลยละกัน
De Facto Relationship คือ การที่คนสองคนมีความสัมพันธ์ร่วมกันฉันท์สามีภรรยา โดยไม่ได้ปิดกั้นอยู่แค่สำหรับความสัมพันธ์แบบชาย-หญิงเท่านั้น ยังนับรวมถึงความสัมพันธ์แบบเพศเดียวกันอีกด้วยทั้งชาย-ชาย และ หญิง-หญิง อาจจะยัง งง งง ก่งก๊ง ว่าอิมฯจะเอาอะไรมาเป็นเกณฑ์ตัดสิน เอาแบบให้เห็นภาพอย่างง่ายที่สุดเลยนะ คือ การที่คู่แฟนกันคู่หนึ่งพักอยู่อาศัยใต้ชายคาเดียวกัน
โดยต้องมีหลักฐานที่สามารถพิสูจน์ได้ และมีพันธสัญญาอื่นๆผูกพันธ์ร่วมกันเป็นเวลาอย่างน้อย
1 ปีตามกฎเกณฑ์ของอิมฯ หลักฐานพันธสัญญาอื่นๆที่สามารถนำมาใช้ประกอบกับหลักฐานทางที่อยู่อาศัย ก็จะมีดังต่อไปนี้ (อันนี้คือเอาตามบรรทัดฐานของทีมงาน CP Sydney office นะครับ คืออาจจะขอหลักฐานเยอะกว่าที่อื่นๆ แต่เน้นปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่า น่าจะปลอดภัยที่สุด) หรือถ้าอยากจะดูลิสต์เอกสารว่าต้องแนบอะไรบ้างสำหรับ De Facto Relationship ก็คลิกดูตามลิงค์นี้ได้เลยครับ https://www.border.gov.au/about/corporate/information/fact-sheets/35relationship
- หนังสือรับรองความสัมพันธ์ไม่ว่าจะเป็นทะเบียนสมรส หรือ Relationship Registration Certificate
- บัญชีคู่
- หลักฐานการจองเวลาไปเที่ยวด้วยกันต่างๆ เช่น การจองโรงแรม หรือตั๋วเครื่องบิน
- รูปถ่าย
- จดหมายจากพยาน 2 ท่าน
- จดหมายเรื่องราวความสัมพันธ์ของเจ้าตัวทั้ง 2 คน
นอกจากนี้ เรายังมีประสบการณ์ตรงจากทางเจ้าหน้าที่ของ CP Sydney Office ที่ทำวีซ่าติดตามนักเรียนด้วยกันมามากมายไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์กันแบบ
ชาย-หญิง, ชาย-ชาย, หรือ หญิง-หญิง ก็ตาม มาเล่าสู่กันฟังด้วยนะจ๊ะ โดยคำถามที่มักจะได้ยินบ่อยๆจากน้องๆเพื่อนๆก็คือ
- จำเป็นต้องอยู่ด้วยกันเอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 1 ปี หรือ 12 เดือนตามที่อิมฯกำหนดไหมคะ?
- คำตอบ ทำได้ครับ แม้ว่าทางอิมฯจะระบุว่าความสัมพันธ์แบบ De Facto Relationship คือการอยู่ด้วยกันฉันท์สามีภรรยาเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 1 ปี แต่ก็ยังระบุไว้เพิ่มเติมว่าทั้งคู่อาจจะสามารถแยกกันอยู่เป็นเวลาชั่วคราวได้เช่นกันโดยที่เขาจะดูในเรื่องของความสัมพันธ์ประกอบกับหลักฐานอื่นๆด้วย ไม่ได้เน้นไปที่การอาศัยอยู่บ้านเดียวกันอย่างเดียว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับหลักฐานความสัมพันธ์ของคู่รักนั้นๆด้วยว่ามีมากน้อยเพียงใด ที่จะสามารถทำให้อิมฯเชื่อในความสัมพันธ์ได้หรือเปล่า
- ถ้ามีเอกสารไม่ครบเป็นระยะเวลา 1 ปี หรือ 12 เดือนตามที่อิมฯกำหนด จะสามารถยื่นได้หรือเปล่า แล้วจะผ่านไหมคะ?
- คำตอบ สำหรับข้อนี้ขอใช้กรณีตัวอย่างของน้องคู่นึงมาเป็นคำตอบละกัน น่าจะเห็นภาพชัดเจนที่สุด โดยความสัมพันธ์ของน้องคู่นี้เป็นแบบเพศเดียวกันนะครับ ขอใช้นามสมมติเป็นน้องกุ๊กกับน้องกิ๊กละกัน คือ ต้องย้อนไปตั้งแต่ช่วงที่น้องกุ๊กเพิ่งมาถึงซิดนีย์ใหม่ๆ น้องก็ได้โทรมาปรึกษากับเจ้าหน้าที่ของ CP Sydney office ว่า “อยากทำวีซ่าติดตามกับแฟนที่เป็นนักเรียนด้วยกัน ต้องเตรียมตัวเก็บเอกสารหรือทำอะไรยังไงบ้างคะ” ซึ่งทางเราก็ได้แนะนำน้องว่าควรทำอะไรบ้าง ควรจะมีหลักฐานอะไรในการยื่นขอทำวีซ่าติดตามกับแฟนซึ่ง...แล้วน้องคนนั้นก็หายไปประมาณ 3-4 เดือน แต่เดชะบุญน้องกุ๊กก็กลับเข้ามาหาเราที่ออฟฟิศพร้อมหลักฐานตามที่เราได้เคยแนะนำไป ซึ่งพอดูจากหลักฐานแล้วทางเจ้าหน้าที่ก็ได้แนะนำน้องกุ๊กน้องกิ๊กไปว่า หลักฐานของน้องยังดูไม่แข็งแรงพอ แนะนำว่าต้องไปเก็บหลักฐานให้นานกว่านี้ และได้แนะนำให้น้องทั้ง 2 ไปจดทะเบียน Relationship Registration (Relationship Registration จะมีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไปในแต่ละรัฐ ซึ่งในปัจจุบันจะมีแค่ ACT, NSW, QLD, TAS และ VIC ที่รับรองการจดทะเบียนแบบดังกล่าว เพราะฉะนั้นถ้าน้องๆเพื่อนๆอาศัยอยู่ใน Northern Territory, Western Australia, หรือ South Australia จะไม่สามารถจดทะเบียนดังกล่าวเพื่อใช้ในการขอวีซ่าติดตามได้นะจ๊ะ) เพื่อเป็นการระบุว่าน้องทั้ง 2 ได้อยู่ในความสัมพันธ์แบบ De Facto จริง เพราะนอกจากจะได้การเอกสารรับรองจากหน่วยงานของรัฐฯแล้ว ยังสามารถช่วยลดระยะเวลาการเก็บเอกสารและไม่มีผลทางกฎหมายอีกด้วย เนื่องจากเอกสารตัวนี้จะไม่เหมือนกับใบทะเบียนสมรสที่มีผลทั้งทางกฎหมาย และใช้ได้กับคู่รักที่มีความสัมพันธ์แบบชายหญิงเท่านั้น...ซึ่งน้องๆก็เชื่อฟังและทำตามแต่โดยดี และพอหลังจากที่ได้ตัว Relationship Registration Certificate มาแล้วน้องกุ๊กก็อยากที่จะยื่นวีซ่าเลย ซึ่งตอนนั้นเราก็ได้บอกน้องไปตามตรงว่า กรณีของน้องยังถือว่ามีความเสี่ยงอยู่เพราะความสัมพันธ์ของน้องเป็นแบบ same sex ด้วย อิมฯอาจจะเข้มงวดมากกว่าแบบชาย-หญิง และเอกสารความสัมพันธ์ก็มีอายุแค่เพียง 6 เดือนเท่านั้น ขออีกสัก 2 เดือนละกันนะ (อันนี้ต้องบอกก่อนว่าวีซ่านักเรียนที่น้องกุ๊กทำมาตอนแรกนั้นน้องได้มาจากที่อื่น เพราะฉะนั้นตัดประเด็นเรื่องเลี้ยงไข้กินหัวคิว ดึงเช็งไปได้เลยนะยูว์) เราทำเรื่องให้น้องทั้ง 2 คนก็อยากให้วีซ่าของน้องผ่านทั้งคู่ ไม่ใช่ว่าผ่านเฉพาะคนเรียนหลักคนเดียว ซึ่งน้องกุ๊กเข้าใจและทำตามที่เจ้าหน้าที่ของเราได้แนะนำไป พอครบกำหนดที่แจ้งน้องไว้เราก็ยื่นวีซ่าให้น้องทั้ง 2 คนตามปกติ หลังจากนั้นให้หลังไม่ถึง 2 สัปดาห์วีซ่าของน้องกุ๊กน้องกิ๊กก็ผ่านทั้งคู่โดยที่ไม่มีการขอเอกสารความสัมพันธ์เพิ่มเติมแต่อย่างใด เรื่องมันก็เป็นตามนี้นะเออ แฮปปี้เอนด์ดิ้งทั้งเราและน้อง จบบริบูรณ์จร้าาา
#ด้วยความปรารถนาดีจากCPSydney
ก็หวังว่าที่เขียนมาทั้งหมดจะเป็นประโยชน์กับทุกๆคนไม่มากก็น้อยนะครับ...หากน้องๆเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมไม่ว่าจะเป็นเกี่ยวกับวีซ่านักเรียนออสเตรเลีย หรือวีซ่าตัวอื่นๆ เช่น วีซ่าทักษะทำงาน หรือวีซ่าครอบครัวต่างๆ ก็สามารถติดต่อเข้ามากดไลค์ติดตามข้อมูลดีๆ หรือทักทายกันได้ที่ www.facebook.com/cpsyd หรือสำหรับคนที่อยู่ในออสเตรเลียก็สามารถโทรมาขอคำปรึกษาได้ทุกวันจันทร์ ถึง ศุกร์ (ตั้งแต่ 9 โมงเช้า ถึง 6 โมงเย็น เวลาที่ซิดนีย์นะครับ) หรือถ้าใครสะดวกเข้ามาที่ออฟฟิศก็เรียนเชิญจร้าาา เบอร์โทร และ ที่อยู่มีให้ไว้อยู่ใน artwork ของเราด้านล่างละครับ
#น้าหนวด