คอลัมน์ Visa Talk by CPSydney ของน้าหนวด ฉบับเดือนเมษายนมาแล้วจร้าาา!! ขอโทษด้วยจริงๆที่ฉบับมาช้าไปหน่อย เล่นมาเอาวันสุดท้ายของเดือนเลย แต่ยังไงก็หวังว่าจะไม่ช้าเกินไปนะจ๊ะ
เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า จากที่สิ้นเดือนที่แล้ววีซ่านักเรียนก็มีการเปลี่ยนแปลง โดยที่ Country risk rating ของประเทศไทยของเราได้ตกลงไปอยู่อันดับ 3 เรียบร้อยโรงเรียนอิมฯ ตามที่ได้ทราบกันไปก่อนหน้านี้ พอข้ามมาเดือนเมษายนได้ไม่ทันไร รัฐบาลน้าค่อม (Malcolm TURNBULL) และชาวคณะ รวมถึงอิมมิเกรชั่นของเราก็ได้แสดงอภินิหารออกมาอีกครั้ง ด้วยการประกาศการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกี่ยวกับวีซ่า 457, ขั้นตอนการยื่น PR ผ่านทาง ENS และ RSMS, และการขอ Australian Citizenship ให้เราได้แตกตื่นกันเล่น จนทำให้ข่าวที่เกาหลีเหนือจะยิงนิวเคลียร์ใส่ออสเตรเลียนี่ตกกระแสสำหรับเราไปเลยเดียว อย่างที่บอกว่าฉบับนี้อาจจะช้าไปหน่อย แต่ยังไงวันนี้น้าหนวดก็จะมาสรุปให้อ่านกันอีกครั้ง ถึงการกระทำอันอุกอาจของน้าค่อม และชาวคณะที่ไม่ได้เกรงใจคนไทยอย่างเราๆกันบ้างเลย โดยสรุปในวันนี้จะอิงกับประกาศ Fact Sheet ต่างๆ และเอกสารที่ออกมาจากทางอิมฯเท่านั้น น้าหนวดจะยังไม่ขออาจหาญแสดงแสนยานุภาพออกความเห็นใดๆเพิ่มเติม ณ จุดๆนี้นะครับ เพราะถึงแม้ว่ายังจะมีหลายจุดที่ยังค่อนข้างคลุมเครือ แต่ก็ขอเออออห่อหมกไปกับทางรัฐบาลไปก่อน เผื่อเขาจะเอ็นดูและเห็นใจในความตะมุตะมิของเรานะครับ
เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า จากที่สิ้นเดือนที่แล้ววีซ่านักเรียนก็มีการเปลี่ยนแปลง โดยที่ Country risk rating ของประเทศไทยของเราได้ตกลงไปอยู่อันดับ 3 เรียบร้อยโรงเรียนอิมฯ ตามที่ได้ทราบกันไปก่อนหน้านี้ พอข้ามมาเดือนเมษายนได้ไม่ทันไร รัฐบาลน้าค่อม (Malcolm TURNBULL) และชาวคณะ รวมถึงอิมมิเกรชั่นของเราก็ได้แสดงอภินิหารออกมาอีกครั้ง ด้วยการประกาศการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกี่ยวกับวีซ่า 457, ขั้นตอนการยื่น PR ผ่านทาง ENS และ RSMS, และการขอ Australian Citizenship ให้เราได้แตกตื่นกันเล่น จนทำให้ข่าวที่เกาหลีเหนือจะยิงนิวเคลียร์ใส่ออสเตรเลียนี่ตกกระแสสำหรับเราไปเลยเดียว อย่างที่บอกว่าฉบับนี้อาจจะช้าไปหน่อย แต่ยังไงวันนี้น้าหนวดก็จะมาสรุปให้อ่านกันอีกครั้ง ถึงการกระทำอันอุกอาจของน้าค่อม และชาวคณะที่ไม่ได้เกรงใจคนไทยอย่างเราๆกันบ้างเลย โดยสรุปในวันนี้จะอิงกับประกาศ Fact Sheet ต่างๆ และเอกสารที่ออกมาจากทางอิมฯเท่านั้น น้าหนวดจะยังไม่ขออาจหาญแสดงแสนยานุภาพออกความเห็นใดๆเพิ่มเติม ณ จุดๆนี้นะครับ เพราะถึงแม้ว่ายังจะมีหลายจุดที่ยังค่อนข้างคลุมเครือ แต่ก็ขอเออออห่อหมกไปกับทางรัฐบาลไปก่อน เผื่อเขาจะเอ็นดูและเห็นใจในความตะมุตะมิของเรานะครับ
แจ้งเพิ่มเติมนิดนึง สำหรับคนที่พลาดการอ่านบทความเกี่ยวกับการตกลงไปเป็น Country risk rating อันดับ 3 ของประเทศไทย ก็สามารถหาอ่านย้อนหลังได้ที่ https://visatalkbycpsydney.blogspot.com.au/2017/03/ssvf-immigration-risk-rating-review.html ได้เลยนะครับ
เอาละนะ เริ่มเลยละกัน!!!
บ่ายอ่อนๆของวันอังคารที่ 18 เมษายน 2017 อันสดใส ทันใดโลกของคนต่างชาติในออสเตรเลียก็พลันมืดลงในบัดดล เมื่อมีประกาศออกมาจากน้าค่อมคนดีผ่านทาง immigration website ว่าจะยกเลิกวีซ่า 457 แล้วแทนที่ด้วย TEMPORARY SKILL SHORTAGE (TSS) โดยได้บอกประมาณว่าจะค่อยๆมีการเปลี่ยนแปลงทีละนิด แต่ก็ไม่วายทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ลูกเบ้อเริ่มด้วยการทิ้งท้ายว่าจะอัพเดทลิสต์อาชีพพร้อมชื่อเรียกใหม่ในวันพุธที่ 19 เมษายน 2017 ให้คนได้ติดตามกันเล่นๆ
ในที่สุดลิสต์อาชีพพร้อมชื่อเรียกตัวใหม่ก็ได้ปรากฎสู่สาธารณชนในวันถัดมา พอเห็นลิสต์เท่านั้นแหล่ะ อลหม่านบ้านทรายทองให้สตรองต่อไปคงไม่ไหว เพราะเล่นประกาศออกมาอย่างเดียวไม่พอ น้าค่อมดันบอกว่า “ลิสต์นี้จะมีผลบังคับใช้ทันทีตั้งแต่วันพุธที่
19 เมษายน 2017 เป็นต้นไป” พร้อมแนบ Fact Sheet ตามออกมาด้วยอีก 2 อัน ตามรายละเอียดด้านล่างนี้เลยครับ
FACT
SHEET 1 สำหรับคนที่กำลังจะยื่นวีซ่า
457 และคนที่ยื่นไปแล้ว แต่ยังไม่รู้ผลของวีซ่า สำหรับคนที่ถือวีซ่า 457 อยู่แล้วจะไม่มีผลกระทบอะไรจาก Fact
Sheet ตัวนี้
- การเปลี่ยนแปลงในเดือนเมษายน (ตั้งแต่วันที่ 19 เมษายน 2017)
- ลิสต์อาชีพสำหรับการทำวีซ่า 457 ถูกตัดออกไปทั้งหมด 216 อาชีพ
- Consolidated Sponsored Occupation List (CSOL) หรือที่รู้จักกันว่าเป็นลิสต์อาชีพสำหรับการทำ 457 จะถูกเปลี่ยนชื่อเป็น Short-term Skilled Occupations List (STSOL) และจะมีการ review และ update ทุกๆ 6 เดือน
- Skilled Occupations List (SOL) หรือที่รู้จักกันว่าเป็นลิสต์อาชีพที่สามารถยื่นขอ PR ได้ด้วยตัวเอง จะถูกเปลี่ยนชื่อเป็น Medium and Long-term Strategic Skills List (MLTSSL)
- ระยะเวลาของวีซ่า 457 ที่จะได้หลังจากวันที่ 19 เมษายน 2017 สำหรับอาชีพในลิสต์ STSOL จะได้วีซ่าแค่เพียง 2 ปี ในขณะที่ MLTSSL จะได้วีซ่าสูงสุด 4 ปี
- การเปลี่ยนแปลงในเดือนกรกฎาคม 2017 (ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2017)
- ลิสต์อาชีพทั้ง STSOL และ MLTSSL จะถูก review เป็นครั้งแรก
- ยกเลิก English Requirement Exemption สำหรับคนที่ได้ค่าแรงตั้งแต่ AUD$96,400/ปี
- Training benchmarks สำหรับนายจ้างอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงหลังจากวันที่ 1 กรกฎาคม 2017
- ต้องมีเอกสารพวก Penal Clearance หรือ Police Check
- การเปลี่ยนแปลงในเดือนธันวาคม 2017 (ภายในเดือนธันวาคม 2017 ก่อนวันที่ 31)
- คนที่ถือวีซ่า 457 จะต้องแจ้ง Tax File Number (TFN) ให้กับทางอิมมิเกรชั่น (DIBP) แล้วจะมีการลิงค์ข้อมูลกับ Australian Tax Office (ATO) เพื่อดูว่าลูกจ้างได้รับค่าแรงตรงกับที่แจ้งไว้ในขั้น nomination ของการทำ 457 หรือเปล่า
- DIBP จะมีการประกาศชื่อบริษัทที่ไม่ผ่านเงื่อนไขข้อบังคับต่างๆภายใต้ Migration Regulation 1994 และกฏหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
- การเปลี่ยนแปลงในเดือนมีนาคม 2018 ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2018 (น่าจะเป็นวันที่ 18 ตามประกาศจาก website ของอิมมิเกรชั่น) จะไม่มีวีซ่า 457 อีกต่อไป จะใช้ชื่อเรียกใหม่ว่า “TSS Visa” ซึ่งก็จะประกอบด้วยตัว Short-Term stream ได้วีซ่า 2 ปี และ Medium-Term Stream ได้วีซ่า 4 ปี
- เงื่อนไขของ Short-Term Stream Visa
- สามารถต่อวีซ่าตัวนี้ได้อีกเพียงแค่ “ครั้งเดียว” เท่านั้น ในขณะที่ยังอยู่ในออสเตรเลีย
- ต้องเป็นอาชีพในลิสต์ STSOL และเพิ่มเติมพวกอาชีพที่อยู่ในกลุ่มของ regional area
- English language requirement ต้องมีผลสอบภาษาอังกฤษ IELTS 5.0 โดยที่แต่ละ band จะต้องไม่ต่ำกว่า 4.5 หรือเทียบเท่า
- Genuine Temporary Entrant requirement (GTE) คืออารมณ์เหมือนเอกสารที่พิสูจน์ว่าเรามีความจำเป็นต่อองค์กร และทำงานในตำแหน่งนั้นจริงๆอะไรทำนองนี้
- เงื่อนไขของ Medium-Term Stream Visa
- สามารถต่อวีซ่าได้ขณะที่ยังอยู่ในประเทศออสเตรเลีย และสามารถยื่นขอ PR ได้ในอนาคตหลังจากที่ถือวีซ่าตัวนี้เป็นเวลา 3 ปี
- ต้องเป็นอาชีพในลิสต์ MLTSSL และเพิ่มเติมพวกอาชีพที่อยู่ในกลุ่มของ regional area
- English language requirement ต้องมีผลสอบภาษาอังกฤษ IELTS ไม่ต่ำกว่า 5.0 ทุก band หรือเทียบเท่า
- เงื่อนไขของทั้ง Short-Term Stream Visa และ Medium-Term Stream Visa
- Work Experience ต้องมีประสบการณ์ทำงานในสาขาที่เกี่ยวข้องไม่ต่ำกว่า 2 ปี
- Labour Market Testing (LMT) คือต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า มีการโฆษณาหาพนักงานที่เป็นคนออสเตรเลียเข้ามาทำงานแล้วจริงๆ แต่ไม่สามารถหาได้เลยต้องสปอนเซอร์คนต่างชาติแทน
- Minimum market salary rate นายจ้างต้องจ่ายค่าแรงออสเตรเลียขั้นต่ำตามที่หน่วยงานของรัฐฯกำหนดไว้ที่ AUD$53,900/ปี (ประกาศตั้งแต่วันที่ 12 เมษายน 2016)
- ต้องมีเอกสารพวก Penal Clearance หรือ Police Check
- Workforce และ Training requirement (อันนี้สำหรับนายจ้าง) คือตัวนายจ้างต้องมีประวัติโปร่งใส และมีการจ่ายค่า training ให้กับ Australian workers
FACT SHEET 2 สำหรับคนที่จะยื่น ENS Visa (subclass 186) และ RSMS Visa (subclass 187)
- การเปลี่ยนแปลงในเดือนเมษายน 2017 (ตั้งแต่วันที่ 19 เมษายน 2017) อันนี้ไม่มีอะไรมากค่ะ เหมือนตัว Fact Sheet 1 เลย ก็คือ ระบุพวกอาชีพที่ถูกตัดออก เปลี่ยนชื่อเรียก และจะมีการ review และ update ทุกๆ 6 เดือน
- การเปลี่ยนแปลงในเดือนกรกฎาคม 2017 (ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2017) เหมือนเดิมค่ะในเรื่องของการ review สำหรับลิสต์อาชีพทั้ง STSOL และ MLTSSL แล้วก็จะมีเพิ่มเติมในเรื่องของผลสอบภาษาอังกฤษ และอายุอีกนิดหน่อย
- English language requirement ต้องมีผลสอบภาษาอังกฤษ IELTS ไม่ต่ำกว่า 6.0 ทุก band หรือเทียบเท่า
- Age อายุสูงสุดสำหรับคนที่จะยื่นแบบ Direct Entry stream จะต้องไม่เกิน 45 ปี แต่สำหรับการยื่นแบบ Temporary Residence Transition stream ยังสามารถมีอายุไม่เกิน 50 ปี ณ วันที่สมัครได้ตามเดิม
- การเปลี่ยนแปลงในเดือนธันวาคม 2017 (ภายในเดือนธันวาคม 2017 ก่อนวันที่ 31) อันนี้ก็เหมือน Fact Sheet 1 เป๊ะๆเลยค่ะ ในเรื่องของ TFN กับ ATO และการประกาศชื่อบริษัทที่ไม่โปร่งใส
- การเปลี่ยนแปลงในเดือนมีนาคม 2018 ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2018 (น่าจะเป็นวันที่ 18 ตามประกาศจาก website ของอิมมิเกรชั่น)
- For the ENS and RSMS visa คือ ต้องเป็นอาชีพในลิสต์ MLTSSL และเพิ่มเติมพวกอาชีพที่อยู่ในกลุ่มของ regional area สำหรับการทำ RSMS (เพราะฉะนั้น ณ ตอนนี้จากประกาศนะคะ อาจจะแปลได้ว่า เราจะยื่น PR ได้ก็ต่อเมื่อเป็นอาชีพที่อยู่ในลิสต์ MLTSSLเท่านั้น แต่ถ้ามีอะไรเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติม จัสตินจะมาอัพเดทเพิ่มให้ฟังในภายหลังค่ะ)
- Minimum market salary rate นายจ้างต้องจ่ายค่าแรงออสเตรเลียขั้นต่ำตามที่หน่วยงานของรัฐฯกำหนดไว้ที่ AUD$53,900/ปี (ประกาศตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2016) สำหรับอาชีพทั้ง 2 ลิสต์
- Residency ต้องทำงานกับนายจ้างเดิม ในตำแหน่งเดิมเป็นเวลาอย่างน้าย 3 ปี จากที่เมื่อก่อนทำแค่ 2 ปี
- Work Experience ต้องมีประสบการณ์ทำงานในสาขาที่เกี่ยวข้องอย่างน้อยเป็นเวลา 3 ปี
- Age ผู้สมัครต้องมีอายุไม่เกิน 45 ปี ณ วันที่สมัคร
- Training requirement (อันนี้สำหรับนายจ้าง) คือนายจ้างต้องจ่ายค่า training ให้กับ Australian workers
เรื่องราวก็เหมือนจะจบลงเพียงเท่านี้ แต่ แต่ แต่ ความวัวไม่ทันหาย ความควายก็เข้ามาแทรก กันอย่างต่อเนื่อง เพราะวันรุ่งขึ้นน้าค่อมและอิมฯก็ยังแสดงความดาร์คออกมาอีก ด้วยการประกาศร่างการเปลี่ยนแปลงขั้นตอนเงื่อนไขในการทำ
Australian
Citizenship ให้มันยากขึ้นไปอี๊กกก ให้หลายๆคนได้อ้าปากค้างให้แมลงวันบินเข้าไปตอมอุจจาระในปากกันเป็นว่าเล่น เพราะไม่เพียงแค่ออกมาประกาศเท่านั้นนะสิ แต่ดั๊นนนบอกว่าให้มีผลบังคับใช้ทันทีตั้งแต่วันที่ประกาศ (20
เมษายน 2017) อีกด้วย ถึงแม้จะบอกว่ายังไม่ผ่านสภาที่จะนำร่างนี้เข้าไปเสนอในช่วงสิ้นปี
2017 ก็ตามที
พอเขียนมาถึงตรงนี้ก็เริ่มงงกันแล้วใช่ไหมครับว่า "ประกาศนี้มีผลบังคับใช้ทันที หรือว่าต้องรอถึงสิ้นปี กันแน่??" เดี๋ยวลองอ่านคำอธิบายตรงนี้ดู น่าจะพอช่วยอะไรได้บ้าง คือ ไอ้ประกาศตัวนี้เนี่ยะเหมือนเป็นประกาศออกมาเพื่อโยนหินถามทางก่อน เพราะรัฐบาลยังเปิดโอกาสให้ทุกคนมีสิทธิ์ในการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประกาศตัวนี้ โดยเราสามารถเข้าไปแสดงความคิดเห็นของเราได้ที่ citizenship.submissions@border.gov.au ตั้งแต่วันที่ประกาศจนถึงวันที่ 1
มิถุนายน 2017 หลังจากนั้นรัฐบาลจะนำมาพิจารณา
และเสนอต่อรัฐสภาอีกครั้งในช่วงสิ้นปี ถ้าไม่ผ่านมติรัฐสภาก็รอด ใช้กฎเดิมสบายตัวกันไป แต่ถ้าผ่านก็จะมีผลบังคับใช้ย้อนหลังตั้งแต่วันที่ประกาศตามที่แจ้งไป เพราะฉะนั้นถ้าใครไม่เห็นด้วยยังไงก็สามารถไปแสดงความคิดเห็นของตัวเองแล้วส่งไปยังอีเมลล์ที่บอกได้เลยครับ แต่กรุณาใจเย็นๆค่อยๆแสดงความคิดเห็นกันนะ อย่าใช้อารมณ์ใส่เขา พยายามคิดไว้ว่ามันต้องมีคนเห็นด้วยเขาถึงออกร่างการเปลี่ยนแปลงนี้มา ถ้าอยากจะได้ citizen จริงๆก็ทำตัวเหมือนหน้ากากทุเรียนไปก่อน เผื่อเขาจะเห็นใจในความตะมุตะมิละกัน แต่ถ้าสุดท้ายมันไม่ได้จริงๆก็ค่อยไปถล่มเขากันทีหลัง555 (อันนี้ไม่เอานะครับ น้าล้อเล่น) คราวนี้ก็มาดูเรื่องข้อประกาศที่ออกมาทั้งหมด 6 ข้อกันบ้างดีกว่า
- Increasing the general residence requirement คือ จะยื่น Australian Citizenship ได้ก็ต่อเมื่อถือ permanent residence (PR) เป็นเวลาอย่างน้อย 4 ปี
- Introducing an English language test ต้องมีผลภาษาครบทั้ง 4 ทักษะ ฟัง พูด อ่าน เขียน ในระดับ competent หรือแปลง่ายๆ คือ เทียบเท่า IELTS 6.0 ทุก band
- Strengthening the Australian Values Statement อันนี้อารมณ์เหมือนประมาณว่าต้องแสดงความจงรักภักดี หรือทำตัวให้เป็นประโยชน์ต่อสังคมออสเตรเลีย อะไรประมาณนี้
- Strengthening the test for Australian citizenship อันนี้ก็เป็นข้อสอบที่ต้องสอบกันเหมือนเดิมนี่แหล่ะค่ะ ที่เพิ่มเติมคือความยากเท่านั้นเอง แล้วก็ถ้าสอบไม่ผ่าน 3 ครั้งจะต้องรอไปอีก 2 ปี ถึงจะมีสิทธิ์สอบ หรือขอ Australian Citizenship ได้ใหม่
- Introducing a requirement for applicants to demonstrate their integration into the Australian community แสดงหลักฐานการมีส่วนร่วมในสังคมออสเตรเลีย รวมถึงการมีความประพฤติที่ดี มีประวัติที่ขาวสะอาดหมดจด ไม่เว้นแม้แต่ในเรื่องการละเมิดกฏจราจร ฯลฯ
- Strengthening the Pledge of commitment อันนี้ที่เข้าใจก็ไม่น่าจะมีอะไรมากสำหรับตัว Pledge of commitment ก็คืออารมณ์เซ็นเอกสารว่าจะจงรักภักดีตอนที่ได้รับ Citizenship Certificate
นี่ก็เป็นประกาศทั้งหมดที่เกิดขึ้นจนเป็นเผือกร้อน ประเด็นร้าวที่น้าค่อมและชาวคณะได้ฝากรอยแผลเอาไว้ส่งท้ายเดือนเมษายนที่ผ่านมานะครับ ยังไงถ้ามีการเปลี่ยนแปลงอะไรอีกน้าหนวดและทีมงาน CP Sydney office ก็จะมาแจ้งให้ทราบกันอีกนะครับ เพราะอย่าลืมว่าทุกๆวันที่ 1 กรกฎาคมของทุกปี อิมฯจะมีการออกมาประกาศข้อเปลี่ยนแปลงทุกอย่างเกี่ยวกับวีซ่าออสเตรเลียอีกครั้ง อันนี้ไม่ได้พูดให้ความหวังอะไรกันนะ อย่าเข้าใจน้าผิด
สุดท้ายนี้ น้าหนวดก็ขออนุญาตโปรโมทงานสัมมนา “ฟรี” ที่ทาง CP Sydney office
จะจัดขึ้นในอนาคตอันใกล้ที่จะถึงนี้หน่อยละกัน
งานแรก Family Visa Seminar ที่ครอบคลุมเนื้อหาทั้งในส่วนของ
Partner Visa, Child Visa, และ Parent Visa โดยจะแบ่งออกเป็น 2 วันด้วยกัน (ให้เลือกมาได้วันใดวันหนึ่งตามอัธยาศัย) ระหว่างวันพุธที่ 24 หรือวันพฤหัสบดีที่ 25 พฤษภาคมที่จะถึงนี้
ตั้งแต่เวลา 13.30-15.00 น. ส่วนสถานที่ก็คงไม่พ้นที่ออฟฟิศ หรือห้องสัมมนาภายในตึกของออฟฟิศนี่แหล่ะจร้าาา
งานที่ 2 Skilled Migration
Seminar ที่เราจัดกันเป็นประจำทุกปีหลังประกาศการเปลี่ยนแปลงวีซ่าในวันที่
1 กรกฎาคมจากทางอิมมิเกรชั่นตามที่ได้บอกไป โดยปีนี้เราจะจัดงานสัมมนาในวันศุกร์ที่ 14 กรกฎาคม 2017
ตั้งแต่เวลา 13.00-15.30
น. ส่วนสถานที่ก็คงจะเป็นห้องสัมมนาภายในตึกของออฟฟิศเช่นเคย...หากใครสนใจงานสัมมนาฟรีแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็น Family Visa Seminar หรือ Skilled Migration Seminar ก็สามารถโทรเข้ามาสำรองที่นั่งได้ตั้งแต่วันนี้ที่เบอร์โทร +61 2 9267 8522 หรือถ้าเป็นสาย social ก็สามารถส่งข้อความมาทาง CP Sydney Facebook Page ได้ที่ https://www.facebook.com/cpsyd/ เพื่อสำรองที่นั่งก็ได้นะจ๊ะ
สำหรับฉบับนี้ น้าหนวดขอลาไปก่อน หากผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ..รู้ว่าหัวข้อมันเครียด เลยพยายามเติมอะไรเพื่อเพิ่มเสียงหัวเราะให้ผู้อ่านได้คลายเครียดลงมาหน่อย ไม่โกรธกันนะจ๊ะ 😜
#น้าหนวด
#ด้วยความปรารถนาดีจากCPSydney