วันอังคารที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2563

Budget 2020 - 2021 คนที่จะยื่นพาร์ทเนอร์วีซ่าต้องอ่าน!! แถมเรื่องข้อสอบขอสัญชาติให้นิดนึง

สวัสดีครับทุกคน น้าหนวดกลับมาแล้ว ที่จริงก็จองตั๋วจะกลับมาหานานแล้วแหล่ะ แต่ดันมาติดเรื่องโควิด-19 ระลอก 2 ในช่วงที่ผ่านมาผนวกกับความบีซี่ของน้า (จือปากพร้อมทำเสียงสอง) เลยไม่มีเวลามาเขียนบทความให้ได้อ่านกัน ยังไงก็ต้องกราบขออภัยมา ณ ที่นี่ด้วยนะครับ...อัญชลี วันทา อภิวาท 🙏🙏🙏

วันนี้ไม่กลับมาไม่ได้จริงๆครับ มีเรื่องราวมากมาย ที่ไม่มีใครได้ฟัง คำพูดนับร้อยพันที่ต้องการเอื้อนเอ่ยยยย🎶🎶🎶 #ยังจะเล่นอีกพ่อคุณเอ๊ยยยย (ขอแวะเฉลยก่อน เดี๋ยวมีคนไม่เกท...เนื้อเพลง "ของขวัญ" นะครับ555)

อ่ะะะะ มาเข้าเรื่องกันต่อ คือ ประกาศออกมาแล้วนะครับ สำหรับ Budget 2020-2021 จากกรัฐบาลออสเตรเลียในเมื่อวานที่ผ่านมา...ทำความเข้าใจกันก่อน คือ ไอ้ที่ประกาศออกมาเมื่อคืนเนี่ยะ เป็นแผนและแนวทางที่จะใช้ในปี 2020-2021 นะจ๊ะ แค่ยังไม่ได้กำหนดกำหนดการการใช้งานออกมา แล้วก็ต้องรอผ่านร่างอนุมัติอีกทีนึงก่อนด้วย

คราวนี้มาดูกันว่ามีอะไรน่าสนใจจากประกาศล่าสุดที่ผ่านมา

เอามาเขียนให้อ่านแค่ในเรื่องที่เกี่ยวกับ immigration อย่างเดียวเท่านั้นนะครับ
  • Migration Program
อันนี้ไม่ได้มีอะไรน่าเป็นห่วง โควตาในการอนุมัติพีอาร์ของ Budget 2020-2021 ยังคงอยู่ที่ 160,000 คนเหมือนเดิม ไม่ลดไม่เพิ่มแต่อย่างใด แค่มีเพิ่มเติมในรายละเอียดนิดหน่อย คือ จากทั้งหมด 160,000 เนี่ยะ จะแบ่งให้เป็นสัดส่วนของ Family visas อยู่ที่ 77,300 ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นจากปีล่าสุดมาถึงเกือบ 30,000 ที่เลยทีเดียว (ของปี 2019-2020 อยู่ที่ 47,732) แล้วก็จะให้ความสำคัญไปที่ผู้สมัครที่อยู่ในออสเตรเลีย และ ผู้สมัครพาร์ทเนอร์วีซ่าที่สปอนเซอร์อยู่ใน regional area ก่อนสำหรับปี 2020-2021

แล้วก็ในส่วนของ Skilled visas สำหรับปี 2020-2021 ก็จะให้ความสำคัญหลักไปที่วีซ่า Employer Sponsored (อันนี้ก็รู้จักกันดีในชื่อของวีซ่านายจ้างสปอนเซอร์นั่นแหล่ะ), Global Talent (อันนี้จะไกลตัวคนไทยหน่อย แต่เอาแบบเข้าใจง่ายๆ คือ จะสมัครวีซ่านี้ได้ต้องมีชื่อเสียงหรือความสามารถระดับโลก ตัวอย่างเช่น นักมวยโอลิมปิกได้เหรียญของไทยคนนึงก็เคยขอวีซ่าตัวนี้ แต่จำชื่อไม่ได้อ่ะว่าคนไหน555), และ Business Innovation and Investment Program (อันนี้ก็ถือว่ารู้จักมักจี่กันอยู่บ้างในหมู่คนไทยของเรา ก็มีสอบถามเข้ามาประมาณนึง) ก่อน แล้วก็ค่อยกระจายความต้องการไปสู่ skilled stream ตัวอื่นๆ

ลงดีเทลล์ให้อีกนิดนึงสำหรับ Business Innovation and Investment Program (BIIP) หรือที่คนไทยเรียกกันติดปากว่า Business visa คือ จะเพิ่ม requirement ทั้งตัวธุรกิจและตัวผู้สมัครที่จะสามารถทำวีซ่าตัวนี้ได้ แต่ยังไม่มีรายละเอียดออกมา ณ ตอนนี้ ซึ่งก็คงจะยากขึ้นตามระเบียบแหล่ะ แล้วค่าวีซ่าสำหรับวีซ่าตัวนี้ก็จะแพงขึ้นถึง 11.3% อีกด้วย ข่าวดีอย่างเดียว คือ โควตาสำหรับวีซ่า BIIP จะเพิ่มขึ้นเป็น 13,500 ที่สำหรับปี 2020-2021 ก็เท่านั้นแหล่ะ
  • Visa Application Charge (VAC)
ที่ได้ทราบกันดีเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า ก่อนหน้านี้ Department of Home Affairs (DHA) ได้ออกมาประกาศว่าจะไม่เก็บค่าวีซ่านักเรียน ในกรณีที่ผู้สมัครต้องต่อวีซ่านักเรียนในหลักสูตรเดิมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 ไปตามอ่านเพิ่มเติมกันได้ที่ https://covid19.homeaffairs.gov.au/student-visa เดี๋ยวยังไงถ้ามีเวลา อาจจะวนมาเขียนให้ได้อ่านกันทีหลังรวมกับเนื้อหาตัวอื่นนะครับ

ส่วนอัพเดทข่าวดีเพิ่มเติมจากประกาศล่าสุดเมื่อวาน คือ จะไม่เก็บค่าวีซ่าของ Working Holiday Visa และ Visitor Visa ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการกระตุ้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวออสเตรเลียให้คนเดินทางกลับมาเที่ยวอีกครั้งเมื่อมีการเปิดประเทศ...นอกจากนี้ ยังจะอนุญาตให้ขอ refund ค่าวีซ่าคืนได้สำหรับวีซ่าบางตัวอีกด้วย เดี๋ยวถ้ามีอัพเดทเพิ่มเติมยังไงแล้วจะมาเหลาให้ได้อ่านกีนอีกทีครับ
  • Adult Migration English Program (AMEP)
ต่อเนื่องมาจากคนที่ได้พีอาร์ผ่านทาง partner visa...เป็นที่ทราบกันดีว่าปกติจะสามารถสมัครเรียนภาษาอังกฤษฟรีภายใต้ AMEP ได้ 510 ชั่วโมง ภายในระยะเวลาที่กำหนด แต่ ตอนนี้เขามีแพลนที่จะเปลี่ยนแปลงแล้วนะ
    1. สามารถเรียนได้ไม่จำกัด
    2. มีระดับการเรียนที่สูงขึ้น (ระดับการเรียนสูงสุดเคยอยู่ที่เทียบเท่า IELTS 4.5 จะเปลี่ยนเป็นที่ 5.5)
    3. ไม่มีเดดไลน์ในการสมัครเรียน
  • Partner visa application
เริ่มกันที่ข่าวดีก่อนละกัน จากหัวข้อ Migration Program ข้างบน คงจำกันได้ที่บอกว่าโควตาการทำ Family visas จะเพิ่มขึ้นเป็น 77,300 ที่ ซึ่งพอมาลงในรายละเอียดเนี่ยะจาก 77,300 จะเป็นโควตาของ partner visa ถึง 72,300 ที่เลยทีเดียว อีก 5,000 ที่ที่เหลือก็จะเจียดไปให้วีซ่าพ่อแม่ และ วีซ่าลูก

คราวนี้มาที่ข่าวร้ายกันบ้าง เข้าใจว่าน่าจะเป็นด้วยความปรารถนาดีของรัฐบาลออสเตรเลียนะครับ เขามีความเป็นห่วงในเรื่องของความรุนแรงภายในครอบครัว (Domestic Violence) เลยเป็นที่มาของ requirement เพิ่มเติมที่จะมีต่อตัวสปอนเซอร์ในการทำพาร์ทเนอร์วีซ่านั่นเอง เบื้องต้นคร่าวๆก็ตัว character check นั่นแหล่ะ (ก็หวังว่าจะไม่มีอะไรเพิ่มเติมไปมากกว่านี้ด้วย) character check คือใบตรวจสอบความประพฤติ หรือ National Police Check นั่นแหล่ะ

แต่  ที่พีคสุด คือว่า เขาแพลนจะให้มี English requirement สำหรับทั้งตัวผู้สมัคร และ ผู้สปอนเซอร์ด้วยนะ...บอกก่อนเลยนะว่าไม่ได้เอามาเหลาให้ตกใจ เพราะอันนี้คือประกาศที่มาจากทางรัฐบาลแล้วเลย ไม่ได้มั่วซั่วคั่วกลิ้งมาจากไหน ลิงค์ที่แปะให้ข้างล่างก็เป็นลิงค์ของรัฐบาลเลย แต่อย่างที่บอกไปแต่ต้นว่า ณ ตอนนี้ยังเป็นแค่แผนการและแนวทาง ยังไม่ได้มีผลบังคับใช้แต่อย่างใด...เพราะฉะนั้นคนที่จดๆจ้องๆว่าจะยื่นหรือไม่ยื่นดี ตอนนี้ถ้าพร้อมแล้วก็ยื่นซะเถอะ #เตือนแล้วนะ แต่ขอให้เอกสารพร้อมประมาณนึงกันก่อนด้วยนะจ๊ะ ไม่ใช่แทบจะไม่มีอะไรเลยแล้วก็จิ้มใบสมัครเข้าไปก่อน เดี๋ยวเคสปลิวเน้ออออ

หมดละ สรุป Budget 2020-2021 Announcement ที่ประกาศออกมาล่าสุดเมื่อวาน ข้อมูลที่เอามาสรุปให้ได้อ่านกันก็มาจากเวบไซต์ของรัฐบาล และ ไมเกรชั่นเอเจนท์ของออฟฟิศที่เป็นสมาชิกของ Migration Institute of Australia (MIA) นะครับ

แฉลบมาที่เรื่อง Australian Citizenship Test กันนิดนึงก่อนที่จะแยกย้ายสบายตัวกันไป คือ ส่วนใหญ่ก็น่าจะรู้กันแล้วแหล่ะว่า ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป ข้อสอบจะเปลี่ยนแล้ว โดยไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่ายื่นขอสัญชาติไปเมื่อไหร่ หรือ ถูกเรียกให้ไปสอบเมื่อใด คือ หลัง 15 พ.ย. ที่ว่าก็นั่นแหล่ะ ข้อสอบใหม่ก็เริ่มเลย...อาจจะมีที่ยังไม่รู้กันนิดหน่อยก็คือ ตั้งแต่ 30 ตุลาคมที่จะถึงนี้ ผู้สมัคร (ไม่ใช่แค่เฉพาะขอสัญชาตินะ รวมถึงผู้สมัครวีซ่าตัวอื่นบางตัวด้วย) จะต้องยอมรับเงื่อนไข Australian Values Statement (AVS) ในใบสมัครด้วย แต่อันนี้ไม่ได้มีอะไรต้องตกใจไป เอาเป็นว่าแค่เล่าสู่กันฟัง

วนมาที่เรื่องของข้อสอบกันต่อ...จากประกาศของรัฐบาลในวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา ข้อสอบก็จะมี 20 ข้อเหมือนเดิมนั่นแหล่ะ แต่ที่เปลี่ยนแปลงคือ 5 จาก 20 ข้อจะถามในเรื่องของ Australian Values ซึ่งเงื่อนไขของการทำข้อสอบให้ผ่าน น้องๆหนูๆจะต้อง
  1. ทำคะแนนให้ได้ไม่ต่ำกว่า 75% คิดมาให้แล้วคือ ต้องถูก 15 จาก 20 ข้อ
  2. คำถาม 5 ข้อที่ถามเกี่ยวกับ Australian Values จะต้องตอบให้ถูกทั้งหมด 5 ข้อ
ตัวอย่างเพิ่มความเข้าใจ สมมติตอบถูก 15 ข้อ แต่ใน 5 ข้อที่ตอบผิด มีคำถามที่อยู่ในหมวด Australian Values อยู่ด้วย ต่อให้จะผิดแค่ข้อเดียวในหมวดนี้ ก็ถือว่าสอบไม่ผ่านนะครับ เพราะต้องผ่านเงื่อนไขทั้ง 2 ขั้นต้นถึงจะผ่านเน้อออ

แต่ยังไงซะก็ไม่ต้องวิตกกังวลกันไป เพราะเขามีตัวอย่างข้อสอบให้ลองทำกันแล้วที่ DHA website ไปลองเล่นกันได้เลยที่ https://immi.homeaffairs.gov.au/citizenship/test-and-interview/prepare-for-test/practice-test-new บอกใบ้ให้อีกนิดสำหรับคนที่กังวลว่ากลัวจะทำข้อสอบไม่ผ่าน ลิงค์ที่ให้นอกจากจะมีข้อสอบให้ลองทำแล้ว น้าก็แค่เพียงกระซิบบอกเบาๆกับทุกคนว่า "ลองกดไปที่ resource booklet" กันดูครับ สว่างวาบวิบวับแน่นอน จุ๊บๆ 💋💋💋

ทิ้งท้ายบทความด้วยช่องทางการติดต่อของ CPSydney office กันอย่างเช่นเคย ช่วงนี้เรายังอยู่ในสภาพการทำงานแบบ work from home สลับกับเข้าออฟฟิศบ้างในบางวัน แต่อย่างน้อยจะมีพนักงานมาเข้าออฟฟิศในทุกวันทำการของเรา เพราะฉะนั้นก็ยังสามารถโทรมาสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับวีซ่าประเภทต่างๆได้ตามปกติที่ 02 9267 8522 หรือจะทักกันมาที่ Facebook page www.facebook.com/cpsyd หรือที่ LINE ID: cpsydney2 ก็ได้ครับ ด้วยสถานการณ์ที่ต้องทำงานที่บ้านกันแบบนี้ ก็อาจจะมีความล่าช้าไปบ้าง ยังไงน้าก็ขอเป็นตัวแทนกราบขออภัยมา ณ ที่นี้ไว้ด้วยนะจ๊ะ

สุดท้ายก็ฝากไปตำ LIKE หรือ FOLLOW เพจกันด้วย จะได้ติดตามข่าวสารข้อมูลต่างๆที่เป็นประโยชน์ไม่ว่าจะเป็นทุนการศึกษา โปรโมชั่นต่างๆ และเรื่องอื่นๆที่น่าสนใจเกี่ยวกับวีซ่าออสเตรเลีย รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวและข่าวสารต่างๆในออสเตรเลียกันได้ครับ...สำหรับฉบับนี้ต้องขอลาไปก่อน แล้วเจอกันใหม่ฉบับหน้า สวัสดีครับ

แหล่งข้อมูลอ้างอิง

วางแผนการเรียนอย่างถูกต้อง คำนึงถึงอนาคตของที่ดีของทุกคนในระยะยาว CPSydney สิคะ...วีซ่านักเรียน วีซ่าทักษะ วีซ่าทำงาน และวีซ่าครอบครัวประเภทต่างๆ #AllServicesYouNeedEndHere


#น้าหนวด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น