วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2561

รัฐบาลใหม่ (ที่อาจจะ) ไฉไลกว่าเดิม และเงื่อนไขการทำงานของคนที่ติดตามวีซ่านักเรียน

มามามา...ไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลงกันให้เสียเวลาในฉบับประจำเดือนกันยายนนี้ เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าตอนนี้ออสเตรเลียได้ผลัดใบเข้าสู่รัฐบาลใหม่ภายใต้ผู้นำคนใหม่อย่างท่านนายกรัฐมนตรี Scott MORRISON เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ละก็ได้ประกาศคณะรัฐบาลใหม่ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วเช่นกันตั้งแต่สิ้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา (สามารถคลิกลิงค์นี้ เพื่อเข้าไปดูคณะรัฐบาลชุดใหม่ได้เลยค่ะ https://www.theguardian.com/australia-news/2018/aug/26/cabinet-reshuffle-full-list-of-scott-morrisons-new-ministry)

เอาจริงๆแล้ว ดูผิวเผินทั่วไปมันคงไม่มีอะไรที่คนไทยอย่างเราๆจะต้องใส่ใจอะไรมากหรอก แต่ ประเด็นความน่าสนใจมันอยู่ที่ตรงที่ท่านนายกรัฐมนตรี Scott MORRISON ได้ทำการโยกย้ายธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการทำวีซ่าต่างๆในออสเตรเลียออกมาจาก Department of Home Affairs (DHA) แล้วจับมาใส่อยู่ในขอบเขตการดูแลของ Department of Immigration, Citizenship, and Multicultural Affairs แทนหน่ะสิ

หลายๆคนอาจจะงงงวยสงสัยว่าแล้วไงอ่ะ เดี๋ยวน้าหนวดจะเท้าความให้ฟัง เอาเลยนะ...




ย้อนความกลับไปในสมัยของกรุงศรึอยุธยา อะปะติถุยยยย #หยอกหยอก เอาแค่กลับไปในสมัยของอดีตท่านผู้นำอย่าง Malcolm TURNBULL ก็พอ คือก่อนที่ TURNBULL จะเข้ามารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พวกธุรกรรมที่เกี่ยวกับเรื่องของวีซ่าต่างๆในออสเตรเลียก็อยู่ภายใต้การดูแลของ Department of Immigration and Border Protection (DIBP) ของมันเป็นปกติ แต่พอพี่แกเข้ามาบริหารงานเท่านั้นแหล่ะ แกดันมีความคิดที่ค่อนข้างหัวโบราณ และอยากจะสงวนสิทธิ์ทุกอย่างไว้ให้คนออสเตรเลียมากกว่าที่จะแบ่งปันให้แก่ชาวต่างชาติที่ (อาจจะ) มีศักยภาพในการทำงานที่ก่อให้เกิดสภาพคล่องทางการเงินมากกว่าคนออสเตรเลีย (พูดถึงเรื่องนี้ละน้าก็คันปากยิบๆ ลืมกันไปรึเปล่าว่าจริงๆแล้วแผ่นดินออสเตรเลียนั้นดั้งเดิมเป็นของพวกอะบอริจิน ใครเล่าหนาที่มาพบเจอในภายหลังแล้วใช้วิธีอะไรก็ไม่รู้เอามาเป็นของตัวเอง #เรืองนี้พูดเยอะไม่ได้เดี๊ยวเจ็บคอขอจิกกัดเบาๆก็พอละกัน555 ไม่ใช่อะไรหรอกครับมันละเอียดอ่อน ยกขึ้นมาเป็นประเด็นเพิ่มอรรถรสขำๆไปนะ ไม่เครียดน้าาาา) อดีตนายกฯคนดีท่านนี้เลยมีนโยบายผนวกเรื่องของวีซ่าเข้ากับเรื่องของความมั่นคงและความปลอดภัยของประเทศจากภัยคุกคามต่างๆ ซะอย่างนั้น ก่อให้เกิดกระทรวงใหม่ที่เรียกว่า "Department of Home Affairs (DHA)" ขึ้นมานั่นเองงงง และแต่งตั้งให้ Peter DUTTON ดูแลกระทรวงดังกล่าว อันเป็นผลให้วีซ่าต่างๆดูยากขึ้นไปหมดในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาจากนโยบายที่นำเรื่องของวีซ่าและผู้อพยพไปอยู่ภายใต้การดูแลความมั่นคงและความปลอดภัยของประเทศจากภัยคุกคามต่างๆ ซึ่งแนวคิดนี้ได้ถูกคัดค้านจากอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงตรวจคนเข้าเมืองของออสเตรเลีย ผู้ที่เล็งเห็นถึงศักยภาพเชิงบวกของชาวต่างชาติ หรือผู้อพยพ และมีมุมมองที่แตกต่างออกไปจากอดีตนายกฯ TURNBULL และ รมต. DUTTON เพียงแต่ในเวลานั้นอดีต รมต. ท่านนี้ ไม่มีแรงสนับสนุนที่เพียงพอ ทำให้ข้อคัดค้านของท่านได้แตกพ่ายในที่สุด



ถูกต้องละครับ...อดีต รมต. ว่ากาารกระทรวงตรวจคนเข้าเมืองของออสเตรเลีย ท่านนั้นก็คือ "นายกรัฐมนตรี Scott MORRISON" คนปัจจุบันของรัฐบาลออสเตรเลีย (คนที่ 31) นั่นเอง

พอคราวนี้หลังจากที่ท่านนายกฯ MORRISON ได้ขึ้นมาดำรงตำแหน่ง ท่านก็นำความคิดที่เคยคัดค้านไว้มาใส่ในแนวทางของท่านด้วย โดยยังคงให้มีกระทรวงความมั่นคงของประเทศออสเตรเลียอย่าง Department of Home Affairs ที่ดูแลในเรื่องของความมั่นคงและความปลอดภัยของออสเตรเลียจากภัยคุกคามต่างๆ และให้ Peter DUTTON เป็น รมต. ประจำกระทรวงอยู่เหมือนเดิม แต่ให้มุ่งเน้นในเรื่องของความปลอดภัย และจำกัดภัยคุกคามต่างๆไว้ในเรื่องของ Cyber Security, Law Enforcement, Border of Protection, และ Security Agencies

แล้วโยกธุรกรรมเรื่องของวีซ่าและอิมมิเกรชั่นต่างๆไปที่ อีกกระทรวงหนึ่งที่ได้กล่าวไปแล้วในข้างต้นอย่าง Department of Immigration, Citizenship, and Multicultural Affairs นั่นเอง และให้ David COLEMAN เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดังกล่าว...อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะยังไม่ทราบนโยบายที่แน่ชัดของท่านนายกฯ MORRISON และท่าน รมต. COLEMAN ว่าจะมีนโยบายต่อชาวต่างชาติและผู้อพยพในออสเตรเลียอย่างไร แต่อย่างน้อยก็ถือได้ว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี จริงไหมครับ???



มาต่อด้วยคำถามยอดฮิตอีกประเด็นเลยครับ "ทำวีซ่าติดตามแฟนที่เป็นนักเรียน สามารถทำงานได้กี่ชั่วโมง ครับ/ค่ะ?"

  • ตามเงื่อนไขในการทำงานของคนที่ถือวีซ่าติดตามนักเรียน (Condition 8104)...คนที่ติดตามนักเรียนจะสามารถทำงานได้ไม่เกิน 40 ชั่วโมงต่อ 2 สัปดาห์ โดยจะสามารถเริ่มทำงานได้ก็ต่อเมื่อคนหลักที่เป็นคนเรียนได้เริ่มเรียนไปแล้วเท่านั้น
  • ข้อยกเว้น คนติดตามจะสามารถทำงานได้มากกว่า 40 ชั่วโมงต่อ 2 สัปดาห์ ก็ต่อเมื่อคนหลักที่เป็นนักเรียนลงทะเบียน และเริ่มเรียนในหลักสูตรปริญญาโท หรือปริญญาเอกไปแล้วเท่านั้น

ไหนๆก็วนมาเรื่องวีซ่านักเรียนแล้ว ก็ไปต่อให้สุดกับเงื่อนไขการทำงานของคนที่ถือวีซ่านักเรียน (Condition 8105) เลยละกัน...ในเรื่องของชั่วโมงการทำงานก็เหมือนกับตัว 8104 เลยครับ คือสามารถทำงานได้ไม่เกิน 40 ชั่วโมงต่อ 2 สัปดาห์ ก็ต่อเมื่อเริ่มเรียนไปแล้ว และอยู่ในช่วง course in session เท่านั้น โดยจะสามารถทำงานได้แบบ unlimited hours ตอน course out of session ครับ
  • Course in session
    • อยู่ในช่วงระยะเวลาเรียนตามที่ระบุไว้ในเอกสารยืนยันการสมัครเรียน หรือ CoE ครับ
    • คอร์สเรียนเพิ่มเติมช่วงปิดเทอมก็เอามานับได้เหมือนกันนะ แต่คอร์สเสริมพวกนั้นจะต้องเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรที่เรียนอยู่ในปัจจุบัน (และถ้าเอาให้ปลอดภัยที่สุดก็ควรจะมี CoE ยืนยันด้วยนะจ๊ะ)
  • Course out of session
    • ช่วงปิดเทอม
    • ในกรณีที่ถูกยกเลิก หรือเลื่อนคอร์สโดยสถาบันที่สอดคล้องกับ Standard 9 of the National Code of Practice for Providers of Education and Training to Overseas Students
    • จบคอร์สตาม CoE เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และมีระยะเวลาของวีซ่าเหลืออยู่ตามที่อิมฯได้ grant มาให้ (อันนี้ในกรณีสำหรับคนที่จะไม่เรียนอะไรต่อแล้วเท่านั้นนะครับ...ถ้าคนที่จะเรียนต่อ อย่าลืมว่าควรจะมี CoE ของคอร์สใหม่มารองรับต่อจากหลักสูตรเดิมที่จบไปภายใน 1 เดือน)
    • หลักสูตรที่ลงทะเบียนเรียนมาถูกยกเลิกจากความผิดพลาดของโรงเรียน (อันนี้ก็ไม่ใช่ว่าปล่อยไหล ไม่หาคอร์สใหม่มาแทนที่เลยนะจ๊ะ เหมือนที่เพิ่งบอกไปข้างบนเลยว่า "ควรจะมี CoE ของคอร์สใหม่ภายใน 1 เดือน")
โดยการทำงาน 40 ชั่วโมงต่อ 2 สัปดาห์ ที่ว่าเนี่ยะ จะไม่นับรวมกับการทำงานที่อยู่ในรูปแบบของโปรแกรมฝึกงานที่มากับหลักสูตรที่ลงทะเบียนเรียนไป อาทิเช่น พวกหลักสูตรการทำอาหาร และการเลี้ยงเด็ก ที่มักจะมีชั่วโมงฝึกงานบังคับรวมอยู่ในหลักสูตร นอกจากนี้พวกงานอาสาสมัครต่างๆก็จะไม่นับรวมว่าเป็นการทำงานเหมือนกันนะครับ

สุดท้ายข้อยกเว้นที่นักเรียนจะสามารถทำงานได้แบบ unlimited hours ได้ตลอดเวลาไม่ว่าจะอยู่ในช่วง in  หรือ out of session ก็คือ นักเรียนคนนั้นจะต้องเรียนในหลักสูตร Master Degree by Research หรือ Doctoral Degree ในออสเตรเลียเท่านั้น แต่จะต้องรอให้เริ่มเรียนในหลักสูตรดังกล่าวก่อนนะจ๊ะถึงจะทำงานแบบ unlimited ได้ ถ้าแบบยังเรียนภาษาอังกฤษเป็นแพคเกจอยู่ ก็ทำงานได้ 40 ชั่วโมงต่อ 2 สัปดาห์ เหมือนเดิมครับ
Source: https://www.homeaffairs.gov.au/trav/stud/more/work-conditions-for-student-visa-holders

สุดท้ายน้าหนวดต้องขอตัวลาไปก่อนในฉบับนี้ ไว้ฉบับหน้าจะเอาสาระดีๆมาเล่าสู่กันฟังให้ได้อ่านกันอีกครั้งนะจ๊ะ...สำหรับที่สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มติมเกี่ยวกับการเรียนต่อในออสเตรเลีย รวมถึงวีซ่าทำงาน วีซ่าทักษะ และวีซ่าครอบครัวต่างๆ ก็สามารถติดต่อ CPSydney office ได้เลยตามรายละเอียดที่อยู่ด้านล่างนี้ สะดวกช่องทางไหนก็เต๊าะกันเข้ามาได้เลยจร้าาาา #ด้วยความปรารถนาดีจากCPSydney

#น้าหนวด



วางแผนการเรียนอย่างถูกต้อง คำนึงถึงอนาคตที่ดีของทุกคน CPSydney สิคะ...วีซ่านักเรียน วึซ่าทำงาน และวีซ่าครอบครัวต่างๆ #AllServicesYouNeedEndHere #CPSydneyชื่อนี้มีแต่ให้



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น