MyFutureMyCP กลับมาละจร้าาาา หลังจากที่หายหน้าหายตากันไปนาน น้าหนวดต้องขอโทษด้วยจริงๆ มัวแต่เอาเวลาไปเขียนบทความหลักอื่นๆอยู่ มานึกได้อีกทีก็เพิ่งจะสำเหนียกได้ว่า ไม่ได้มาเขียนแนะนำสถาบันให้หลานๆได้อ่านมานานถึง 3 เดือนแล้ว...เอาเป็นว่าเดี๋ยวฉบับนี้จะจัดให้ชุดใหญ่ไฟกระพริบตามที่ได้จั่วหัวข้อเลยละกันนะ
MyFutureMyCP 2018/3-5 ในฉบับนี้เราจะไปกันอย่างรวดเร็ว เพราะจะมีถึง 3 สถาบันด้วยกันที่วันนี้น้าหนวดจะมาเขียนแนะนำให้ได้รู้จักเพิ่มเติมกันไปอีก
มาเริ่มกันเลยที่สถาบันแรก Kaplan Business School (KBS)
Kaplan Business School ไม่ใช่สถาบันไก่กาอาราเล่แต่อย่างใดนะจ๊ะเด็กๆ เชื่อหรือไม่ว่า KBS เนี่ยะมีอายุอานามกว่า 80 ปีแล้ว (มากกว่ามหาวิทยาลัยบางแห่งในออสเตรเลียอีกนะ555) แล้วรู้หรือไม่ว่าต้นตำรับของ KBS เนี่ยะก็ไม่ได้จากในประเทศออสเตรเลียนะจ๊ะ มาจากประเทศสหรัฐอเมริกานู่นเลย เพิ่งจะมา GRAND OPENING ในแดนจิงโจ้แห่งนี้เมื่อปี 2006 นี่เอง จนมาปัจจุบันก็สามารถขยายสาขา campus ต่างๆได้ถึง 4 แห่ง ได้แก่ Sydney, Melbourne, Adelaide, และ Brisbane ภายในระยะเวลาแค่เพียง 12 ปีเท่านั้น
รู้ถึงประวัติความเป็นมาของสถาบันไปแล้ว คราวนี้มาดูต่อกันหน่อยว่า ทำไมเด็กๆถึงควรลองพิจารณาสถาบันแห่งนี้ไว้เป็นหนึ่งในตัวเลือกของการเรียนในระดับปริญญาตรี และปริญญาโทไว้ในอ้อมใจกันดูบ้าง
- Affordable Tuition Fee: ถึงแม้จะมีแต่หลักสูตรปริญญาตรี และปริญญาโทเป็นหลัก แต่รู้หรือไม่ว่าที่ KBS เนี่ยะ มีค่าเทอมถูกแสนถูกเมื่อเปรียบเทียบกับสถาบันอื่นๆที่เปิดสอนในหลักสูตรเดียวกัน โดยค่าเทอมของที่ Kaplan Business School จะตกอยู่ที่เพียงประมาณ A$7,xxx ต่อเทอมเท่านั้น บอกได้เลยว่าถูกมากๆถ้าเทียบคุณภาพที่จะได้รับกับสถาบันอื่นๆที่ไม่ใช่มหา'ลัย แต่เปิดสอนในระดับปริญญาตรี และปริญญาโทเหมือนกัน
- Professional Recognition: ทุกหลักสูตรของ KBS ได้รับการรับรองจากหน่วยงานต่างๆ รวมถึงหน่วยงานในภาครัฐฯของออสเตรเลียเป็นที่เรียบร้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหลักสูตรทางด้านการบัญชีที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานทางด้านบัญชีในออสเตรเลียเช่นเดียวกัน ทำให้มั่นใจได้เลยว่าจะสามารถนำคุณวุฒิที่ได้จากทางสถาบันไปต่อยอดในการทำวีซ่า 485 และ PR ได้ในอนาคตอย่างแน่นอนครับ
- Expert Lecturers: คณาจารย์ผู้ที่มีทั้งคุณวุฒิที่เหมาะสม และประสบการณ์ตรงทางด้านต่างๆ
- Global Career Prospects: ด้วยความที่ KBS ไม่ได้เป็นที่รู้จักแค่ในสหรัฐอเมริกา และออสเตรเลียเท่านั้น แต่ทว่ายังเป็นที่รู้จักในอังกฤษ และหลากหลายประเทศในเอเชีย รวมถึงประเทศไทยของเราอีกด้วย ทำให้ KBS เป็นที่รู้จักในวงกว้าง และมีจุดแข็งมากๆในเรื่องของ GLOBAL CONNECTIONS จากการมี partnerships มากกว่า 1,000 แห่ง จาก 30 ประเทศทั่วโลก
- Careers Central: หนึ่งในจุดแข็งที่ดีที่สุดของ KBS คงหนีไม่พ้นในเรื่องของการให้บริการในการเตรียมความพร้อมให้กับนักเรียนในการหางาน รวมถึงโปรแกรมการฝึกงานระหว่างการเรียนจาก Careers Central Team ของทางสถาบัน ไม่ว่าจะเป็น workshop ต่างๆตลอดปีในทั้ง 4 campuses และการให้คำปรึกษาแบบตัวต่อตัว โดยสิทธิพิเศษนี้จะมอบให้ทั้งนักเรียนปัจจุบัน และศิษย์เก่าที่จบไปแล้ว ไม่ได้สงวนสิทธิ์ให้เฉพาะนักเรียนปัจจุบันแต่อย่างใด
รู้ข้อดีของสถาบันแล้ว คราวนี้ถ้าสนใจที่จะเรียนที่นี่ต่อจริงๆ ก็ต้องมาดูกันว่าที่ Kaplan Business School เขามีหลักสูตรอะไรให้เรียนกันบ้าง
- Bachelor of Business in different majors:
- Accounting
- Finance
- Hospitality & Tourism Management
- Management
- Marketing
- Graduate Certificate in Accounting
- Master of Professional Accounting
- Master of Accounting
- Graduate Certificate in Business Administration
- Graduate Diploma of Business Administration
- Master of Business Administration in different majors:
- Entrepreneurship
- International Leadership
- Health Services Management
- Digital Management
- Project Management
มาต่อกันเลยที่สถาบันที่สองและสามในคราวเดียวกัน Greenwich English College (GEC) และ Greenwich Management College (GMC)
Greenwich College เนี่ยะ แบ่งย่อยออกเป็น 2 โรงเรียน ได้แก่ Greenwich English College (GEC) สำหรับหลักสูตรภาษาอังกฤษ และ Greenwich Management College (GMC) สำหรับการเรียนการสอนในหลักสูตรวิชาชีพ
มาเริ่มกันที่ GEC สถาบันภาษากันก่อนเลย...ด้วยความที่อยู่ยงคงกระพันในอุตสาหกรรมการศึกษาออสเตรเลียมายาวนานถึง 13 ปี กอปรกับคุณภาพการเรียนการสอนที่ยอดเยี่ยม ทำให้ GEC ถูกจัดให้เป็น private English course provider อันดับต้นๆของออสเตรเลียเลยก็ว่าได้ (private English course provider ในที่นี้ เราจะไม่นับรวมถึงสถาบันภาษาของมหาวิทยาลัยต่างๆนะครับ) ถ้าไม่เจ๋งจริง หรือไม่ได้เป็นที่ยอมรับในวงกว้าง คงไม่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นศูนย์สอบ Cambridge Exam หรอกครับ ก็เหมือนกับที่ Navitas English ได้เป็นศูนย์สอบของ IELTS นั่นแหล่ะ
นอกจากจะเปิดมานาน มีคุณภาพการเรียนการสอนที่ยอดเยี่ยม และเป็นศูนย์สอบ Cambridge Exam ในออสเตรเลีย...GEC ยังเป็นสถาบันภาษาที่มี Cambridge course เปิดสอนเยอะที่สุดในออสเตรเลียอีกด้วย เท่านั้นยังไม่พอ หนูๆยังสามารถเลือก GEC เป็นศูนย์สอบสำหรับการสอบ BULATS และ OET ได้อีกด้วย จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมในหนึ่งปีถึงมีนักเรียนต่างชาติกว่า 1,500 คนจาก 30 ประเทศทั่วโลกถึงเลือกที่จะมาเรียนที่ GEC ไม่ว่าจะเป็นการเรียนที่ Sydney หรือ Melbourne ก็ตาม
ก่อนจะข้ามไปที่ GMC เรามาดูกันต่ออีกสักนิดดีกว่าว่า GEC ยังมีข้อดีอะไรอีกบ้างที่ทำให้น้องๆนักเรียนหลายๆคนถึงตัดสินใจมาเรียนที่นี่
- Location: อย่างที่บอกไปว่าน้องๆจะสามารถเลือกเรียนได้ทั้งที่ Sydney และ Melbourne ซึ่งนับได้ว่าเป็นเมืองใหญ่ทั้งคู่ แต่ที่ยิ่งดีไปกว่านั้นคือทั้ง 2 campus เนี่ยะ ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองเลย ทำให้สะดวกมากในการเดินทางไปเรียน
- Course articulations: น้องๆที่จบหลักสูตรภาษาจากที่ GEC จะสามารถนำผลภาษาที่เรียนจบไปใช้สมัครเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้นได้กับสถาบันชื่อดังต่างๆ อาทิเช่น TAFE NSW, Macquarie University, University of Wollongong, Torrens University ฯลฯ
- Course varieties: อย่างที่บอกไปแต่แรกว่า GEC เป็นโรงเรียนภาษาที่มี Cambridge course เยอะที่สุดในออสเตรเลีย โดยจะมีตั้งแต่ระดับ Beginner ไล่ยาวไปถึง Advanced แต่อีกสิ่งที่ทำให้ GEC มีความโดดเด่นกว่าที่อื่นก็คือ พี่แกมีหลักสูตรภาษาอังกฤษให้เลือกเรียนมากถึง 17 หลักสูตรด้วยกัน
- Tuition fee: หลายๆคนอาจจะพอทราบว่าแต่ละหลักสูตรก็จะมีราคาค่าเรียนภาษาที่แตกต่างกันออกไป แต่ที่ GEC เนี่ยะ ราคาเดียวกันในทุกคอร์สเลยนะจ๊ะ เพราะฉะนั้นในกรณีที่อยากจะเปลี่ยนคอร์สก็สามารถเปลี่ยนได้โดยไม่ต้องเสียค่าเรียนเพิ่มเติมแต่อย่างใดครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจะต้องดูความเหมาะสมของหลักสูตรที่จะย้ายไปด้วยนะครับว่าเราจะสามารถเรียนได้รึเปล่า ในกรณีที่นักเรียนบางคนอาจจะต้องเรียนหลักสูตรวิชาชีพหลังจากที่เรียนภาษาเสร็จ
จบจากโรงเรียนภาษา ก็มาซัดกันต่อเลยกับ GMC ที่สอนหลักสูตรวิชาชีพกันเลยดีกว่า...GMC เองก็จัดได้ว่าเป็นสถาบันต่อยอดน้องใหม่ที่ทาง Greenwich College ขยายแตกกิ่งก้านสาขาออกมาเพิ่มเติมจาก Greenwich English College โดยให้สถาบันสอนวิชาชีพมีชื่อว่า Greenwich Management College หรือ GMC นั่นเอง ซึ่งที่ GMC เนี่ยะ น้องๆหลานๆจะสามารถเลือกเรียนได้ใน 3 ระดับชั้นการเรียนด้วย ได้แก่ Certificate IV, Diploma, และ Advanced Diploma และมีหลักสูตรวิชาชีพให้เลือกเรียนทั้งหมด 6 สาขาด้วยกัน ได้แก่
- Business
- Leadership and Management
- Project Management
- Program Management
- Marketing and Communication
- Event Management
ถึงแม้จะเป็นสถาบันต่อยอดน้องใหม่ แต่ก็ไม่ได้อ่อนประสบการณ์อย่างที่คิดนะครับ อย่าลืมว่าอันนี้มันไม่ใช่โรงเรียนเปิดใหม่ไก่กาอาราเล่ มันเป็นโรงเรียนที่ได้รับการต่อยอดขยายกิ่งก้านสาขาเพิ่มช่องทางทางการตลาดให้กับตัวเอง ทำให้ GMC ทำการบ้านมาเป็นอย่างดีก่อนที่จะ Grand Opening เปิดให้น้องๆได้เรียนในเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา เดี๋ยวเรามาดูกันว่า GMC มีข้อดีอะไรเพิ่มเติมอีกบ้างที่ทำให้น้าหนวดแนะนำให้หลานๆรู้จัก และลองพิจารณาเก็บไว้ในอ้อมใจกันดู
- Flexible timetable: มีทั้งแบบไปเรียนวันเดียวเต็มวัน หรือจะเอาแบบเรียนครึ่งวัน 2 วันก็ได้ เพราะฉะนั้นก็จะค่อนข้างมีเวลาให้ได้ใช้สอยตามอัธยาศัยกันพอสมควรเลยครับ
- Cheap tuition fee: เชื่อหรือไม่ว่า ค่าเทอมของที่ GMC มีสนนราคาอยู่แค่เพียง A$1,000/term เท่านั้น ถูกกว่านี้ไม่มีอีกแล้วจริงๆ
- Scholarship availability: อันนี้เรียกได้ว่าแปลกสุดๆไปเลย เพราะปกติพวกทุนการศึกษาเนี่ยะ จะมีเฉพาะในสถาบันที่สอนพวกหลักสูตรปริญญาตรีขึ้นไปทั้งนั้น แต่นี่มีทุนการศึกษามูลค่า A$2,000 ให้กับน้องๆที่เรียนในระดับ Advanced Diploma ด้วยนะจ๊ะ
- Industry engagement and Internship opportunities:
สำหรับฉบับนี้น้าหนวดต้องขอลาไปก่อน ไว้เดี๋ยวในฉบับหน้าจะมาเล่าอะไรให้ฟังก็ต้องลองติดตามอ่านกันดูนะครับ...หากใครมีข้อสงสัยเพิ่มเติมก็สามารถติดต่อมาที่ CPSydney office ได้ทุกช่องทางไม่ว่าจะเป็นเบอร์โทรศัพท์ +61 2 9267 8522 หรือจะทักมาหากันที่ Facebook Page ของทางบริษัทก็สามารถทักกันมาได้ที่ www.facebook.com/cpsyd
#ด้วยความปรารถนาดีจากCPSydney
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น