วันพุธที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2561

ได้รับคำแนะนำผิด ชีวิตเปลี่ยน นะจ๊ะ!!!

VisaTalk by CPSydney กลับมาอีกแล้วจร้าาา...ขอต้อนรับเข้าสู่เดือนสิงหาคม หรือเดือนที่ 8 ของทุกๆปี นี่ก็ไม่น่าเชื่อเลยว่าเผลอแป๊บเดียว อีกแค่ 4 เดือน ปี 2018 ก็จะจากเราไปแล้ว เพราะฉะนั้นใครมีเป้าหมายอะไรที่ตั้งใจไว้ว่าจะทำภายในปีนี้ก็รีบๆเข้านะจ๊ะ เดี๋ยวจะหาว่าน้าหนวดไม่เตือนเด้อออ

มาเข้าเรื่องของเรากันในฉบับประจำเดือนสิงหาคมกันเลยดีกว่า โดยในวันนี้น้าหนวดจะนำกรณีศึกษาของการได้รับคำแนะนำแบบผิดๆ หรือการเข้าใจผิดของตัวหลานๆทั้งหลายเกี่ยวกับการทำวีซ่า มาเล่าให้ฟังกันในฉบับนี้นะครับ

กรณีศึกษาที่ 1 (วีซ่านักเรียน และ วีซ่าติดตามนักเรียน)

สำหรับกรณีศึกษาแรกที่เข้ามาปรึกษากับทาง Migration agent ประจำ Sydney office ก็จะเป็นเรื่องของครอบครัวของพี่เอครับ คือว่า พี่เอได้เข้ามาปรึกษากับ migration agent ของเราเพราะถูกทาง (Administrative Appeals Tribunal: AAT) ยืนยันคำตัดสินมาว่า "พี่เอ ถูกยกเลิก วีซ่านักเรียนของตัวเอง" เหตุการณ์เช่นนี้สามารถเกิดขึ้นได้ด้วยเหตุผลประการใดหน่ะหรือ ก็เอาแบบง่ายๆเลยนะครับ การถูกยกเลิกวีซ่านักเรียน จะสามารถเกิดขึ้นได้ในกรณีที่นักเรียนได้ทำผิดกฎหรือเงื่อนไขอย่างใดอย่างหนึ่งของวีซ่านักเรียน อาทิเช่น ทำงานเกินจำนวนชั่วโมงที่อิมฯกำหนดมาให้, เปลี่ยนระดับหลักสูตรการเรียนต่ำลงจากวีซ่านักเรียนที่ได้รับมา แล้วไม่เปลี่ยนวีซ่าให้ถูกต้องตามหลักสูตรใหม่, รวมถึงการไม่ยอมไปเรียนหนังสือ ฯลฯ

ซึ่งในกรณีของพี่เอที่โดนยกเลิกวีซ่านักเรียน (CANCELLATION) ไปก็เพราะว่า พี่แกไม่ได้ไปเรียนหนังสือเลยเป็นระยะเวลา 3 เดือน รวมถึงไม่มีการตอบสนองใดๆกับทางสถาบันเลยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา หลังจากที่พี่เอได้ยื่นวีซ่าติดตามนักเรียนกับภรรยาของพี่เอเข้าไปและกำลังรอผลของวีซ่าอยู่ ทำไมพี่เอถึงทำตัวไม่น่ารักแบบนี้หน่ะหรอ??? เหตุของการกระทำดังกล่าวเกิดขึ้นได้เพราะอะไร พี่เอได้เล่าให้เราฟังว่า "หลังจากที่พี่ได้ให้เอเจนท์เก่าของพี่ ยื่นวีซ่าติดตามนักเรียนกับภรรยาเข้าไปแล้วนั้น ทางเอเจนท์นั้นก็ได้บอกกับพี่เอว่า ระหว่างที่รอผลนี้ พี่เอไม่ต้องไปเรียนแล้วได้เลยนะคะ" นั่นแหล่ะค่ะ ผลลัพธ์ที่ตามมาก็อย่างที่เห็นและได้ทราบโดยทั่วกัน โดนยกเลิกเรียบร้อยโรงเรียนอิมมิเกรชั่นไปตามระเบียบ เพราะความผิดกระทงนี้ได้เทียบเท่ากับการทำผิดเงื่อนไข 8202 นั่นเอง (ดูรูปประกอบได้ด้านล่างเลยนะจ๊ะ)
จากรูปจะเห็นได้ว่า เงื่อนไขของเจ้าตัว 8202 นั้นประกอบด้วยกัน 2 ส่วน คือ ในเรื่องของการเรียนให้ตรงหรือสูงกว่าในระดับที่ได้รับวีซ่านักเรียนมาตาม CoE ที่ยื่นไป อีกส่วนก็ที่ตีกรอบสีแดงให้ดูที่พี่เอทำผิดเงื่อนไขนั่นแหล่ะ

เท่านั้นยังไม่พอครับ แทนที่เอเจนท์เจ้ากรรมจะแนะนำให้พี่เอ withdraw หรือถอนวีซ่าติดตามนักเรียนที่ยื่นตามภรรยาหลังจากที่พี่เอโดนยกเลิกวีซ่านักเรียน แต่แกดันปล่อยให้พี่เอเพิกเฉยกับวีซ่าตัวที่ยื่นเข้าไปตามภรรยาซะอย่างนั้น จนสุดท้ายก็โดนปฏิเสธวีซ่าติดตามภรรยามาอีก (REFUSAL) ทำไมพี่เอถึงควรจะถอนวีซ่าติดตามภรรยาที่ยื่นเข้าไปหน่ะหรอ??? ก็เพราะว่าหลังจากที่พี่เอโดนยกเลิกวีซ่านักเรียนของตัวเองไปแล้วนั้น พี่เอได้มีความผิดขึ้นมาอีก 1 กระทงทันทีด้วยเหตุผลนี้ครับ เงื่อนไข 4103 คือ ภายหลังที่โดนยกเลิกวีซ่า เราจะไม่มีสิทธิ์ยื่น temporary visa ใดๆได้เลย ไม่ว่าจะเป็นวีซ่าทำงาน วีซ่าท่องเที่ยว หรือแม้แต่วีซ่านักเรียนเป็นเวลา 3 ปีด้วยกัน หรือเอาแบบง่ายๆก็ที่เข้าใจกันว่า "โดนแบน 3 ปี" ก็คือเงื่อนไขนี้นั่นแหล่ะ

สาวให้ลึกลงไปอีก ก็ได้พบเจออีก 1 คำแนะนำแบบผิดๆที่เอเจนท์นั้นได้มอบให้แก่พี่เอ...หลังจากที่ทั้งโดนยกเลิก และปฏิเสธวีซ่ามาแล้ว เอเจนท์เจ้าเดิมก็ดันแนะนำให้พี่เอยื่นอุทธรณ์ (AAT) วีซ่าติดตามนักเรียนที่โดนปฏิเสธเพียงอย่างเดียว ทั้งๆที่พี่เอสามารถยื่นอุทธรณ์ได้ทั้งวีซ่าที่ถูกยกเลิกไปและวีซ่าติดตามนักเรียนที่ถูกปฏิเสธมา คือถ้าจะมองว่าเปลืองเงินเลือกอุทธรณ์อันเดียวก็พอ ก็ควรจะยื่นอุทธรณ์ในส่วนของวีซ่านักเรียนของพี่เอที่ถูกยกเลิก ไม่ใช่มาอุทธรณ์ในส่วนที่ถูกปฏิเสธมาจากผลพวงที่โดนแบน 3 ปึจากการผิดเงื่อน 4103 เพราะฉะนั้นถ้าจะเลือกอุทธรณ์อันเดียวก็ควรจะมุ่งไปที่ต้นเหตุ ไม่ใช่มาแก้ตรงปลายเหตุครับ...กล่าวโดยสรุปสำหรับกรณีศึกษาของพี่เอนะครับ คือ ถ้าพี่เอได้รับคำแนะนำที่ถูกต้องตั้งแต่ในเรื่องควรจะยังไปเรียนหนังสืออยู่ตามเดิมในขณะที่รอวีซ่าติดตามนักเรียนกับภรรยาที่ยื่นเข้าไปตามเงื่อนไข 8202 รวมถึงผลลัพธ์ของการถูกยกเลิกวีซ่า และการเลือกอุทธรณ์ให้ถูกต้อง พี่เอก็อาจจะไม่ได้รับผลกระทบที่รุนแรงขนาดนี้ ก็ เป็น ด้ายยยย

ทั้งนี้ หากว่าใครใคร่สงสัยว่าตัวเองทำผิดเงื่อนไขวีซ่านักเรียนในข้อใดอีกบ้าง (นอกจากการทำงานเกิน) ก็สามารถดูได้ในวีซ่านักเรียนของตัวเอง เพราะโดยปกติอิมมิเกรชั่นจะแนบ conditions ต่างๆมาไว้ให้ในวีซ่านักเรียนของทุกคนด้วยอยู่แล้ว หรือถ้าใครหาไม่เจอจริงๆ ก็สามารถคลิกที่ลิงค์ที่น้าหนวดแปะไว้ให้ได้เลยนะครับ https://www.homeaffairs.gov.au/trav/stud/more/visa-conditions/visa-conditions-students 

กรณีศึกษาที่ 2 (ยื่น Partner Visa ด้วยตัวเอง แล้วจะเอาลูกมาติดตามในภายหลัง)

ข้ามมาที่กรณีศึกษาที่ 2 ที่ได้เข้ามาขอความช่วยเหลือจากทาง CPSydney office ของเราไปนั้น ก็จะเป็นเรื่องของพี่บีกันบ้าง คือ พี่บีได้ยื่น Partner Visa application เข้าไปด้วยตัวเองตั้งแต่ต้นปี 2017 ที่ผ่านมา โดยได้ระบุในพาร์ทนึงของ application ให้ทางอิมฯทราบว่า พี่บีไม่มีความประสงค์ที่จะเอาลูกมาติดตามในอนาคต แต่ในเป้าประสงค์ที่แท้ทรูของพี่บี คือ แกก็ตั้งใจจะเอาลูกมาติดตามในภายหลังนั่นแหล่ะ เพียงแต่ด้วยความที่กรณีศึกษาของพี่บีนั้นมีความสับสนเล็กน้อยถึงปานกลาง ทำให้พี่บีกรอกเอกสารผิด และทำให้เจ้าหน้าที่เข้าใจว่าพี่บีจะไม่เอาลูกมาติดตามเลย ไม่ว่าจะเป็นทั้งในตอนนี้หรืออนาคตก็แล้วแต่ เจ้าหน้าที่จึงออกเอกสารให้พี่บีเซ็นรับรองว่าจะไม่ให้ลูกไปตรวจสุขภาพ รวมถึงไม่อนุญาตให้นำลูกมาติดตามในอนาคต!!! เดชะบุญในความใคร่รู้ใครสงสัยของพี่บี แกเลยโทรเข้ามาสอบถามกับทางเจ้าหน้าที่ประจำ CPSydney office ของเราก่อนที่จะตอบอะไรกับอิมฯกลับไป จนแกได้รับคำแนะนำที่ถูกต้องจากเจ้าหน้าที่คนเก่งของเรา ทำให้พี่บีตัดสินใจแต่งตั้งให้เราเป็นเอเจนท์ตัวแทนติดต่อกับทางอิมฯแทนพี่เขา ซึ่งทางเราก็ได้ทำการเขียน submission แจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ทราบถึงความเป็นมาและเป็นไป...จนในที่สุดอิมฯก็เปลี่ยนใจอนุญาตให้ลูกของพี่บีไปตรวจสุขภาพเป็นที่เรียบร้อย และเตรียมตัวทำเรื่องวีซ่าติดตามพี่บีมาอยู่ที่ออสเตรเลียอยู่ใน ณ ตอนนี้นั่นเอง

จริงอยู่ครับว่า หลายๆคนอาจจะมองว่ากรอกวีซ่าจะไปมีอะไรยาก จะยากก็แค่มันเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้นเอง แต่รู้หรือไม่ว่า ลูกค้าชาวออสเตรเลีย ฝรั่งอั้งม้อหัวทองของเราหลายคนก็ยอมรับกับเจ้าหน้าที่ของเราเองว่า ชั้นยอมแพ้กับการกรอกวีซ่าคู่ครองแล้ว บางพาร์ทมันวุ่นวายและซ้ำซ้อนเหลือเกิน ชั้นให้เธอดูแลเคสให้ดีกว่า...นี่แค่เป็นเคสตัวอย่างกรณีศึกษาที่ยังมาให้เราแก้ไขได้ทันเวลานะครับ มีอีกหลายเคสมากมายที่เข้าใจผิด และซับซ้อนวุ่นวายกว่านี้เยอะ ไว้คราวหลังถ้ามีโอกาสน้าหนวดจะหยิบมาเล่าให้ฟังในภายหลังอีกทีนึงนะครับ

สำหรับฉบับนี้ น้าหนวดต้องขอลาไปก่อน เดี๋ยวยังไงเอาไว้เจอกันใหม่ฉบับหน้านะจ๊ะ...สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มติมเกี่ยวกับการเรียนต่อในหลักสูตรต่างๆในออสเตรเลีย รวมถึงวีซ่าทำงานหรือวีซ่าทักษะต่างๆ และวีซ่าครอบครัวต่างๆ...ติดต่อเราได้เลยครับที่เบอร์ (+61) 2 9267 8522 หรือ LINE ID: cpsydney2 หรือจะทักมาที่ www.facebook.com/cpsyd ก็ได้นะ

วางแผนการเรียนอย่างถูกต้อง คำนึงถึงอนาคตที่ดีของทุกคน ไว้ใจเรา CP Sydney...วีซ่านักเรียน วีซ่าคู่ครอง วึซ่าทำงาน แปลเอกสารก็มีนะจ๊ะ #AllServicesYouNeedEndHere #CPSydneyชื่อนี้มีแต่ให้

#ด้วยความปรารถนาดีจากCPSydney

#น้าหนวด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น