MyFutureMyCP ประจำปี 2018 นี่ก็ผ่านมาหลายฉบับแล้วเหมือนกันนะ เราก็ได้เขียนถึงทั้งโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษ โรงเรียนที่สอนในระดับวิชาชีพไม่ว่าจะเป็นหลักสูตรทางด้านธุรกิจ การเลี้ยงเด็ก หรือแม้แต่พวกหลักสูตรการแสดง แต่มีสถาบันอยู่กลุ่มนึงที่น้าหนวดยังไม่เคยได้มีโอกาสเขียนให้ทุกๆคนได้อ่านกันเลยก็คือ "มหาวิทยาลัย" ซึ่งก็เหมือนดวงประจวบเหมาะ บุญพาวาสนาส่งตามคิวที่ได้แพลนไว้พอดี เพราะใน MyFutureMyCP 2018/7 ฉบับประจำเดือนตุลาคมนี้ น้าหนวดจะมาเล่าให้ฟังถึงมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในออสเตรเลียให้น้องๆเพื่อนๆได้รู้จักกันดู เผื่อใครหลายๆคนกำลังพิจารณาเรื่องเรียนต่อในระดับปริญญาตรี หรือปริญญาโทจะได้ลองพิจารณามหาวิทยาลัยแห่งนี้ไว้ในอ้อมใจกันดูครับ
เอานะ เริ่มกันเลยละกันนน...เชื่อว่าหลายๆคนอาจจะยังไม่คุ้นหูกับ "Torrens University Australia (TUA)" กันอย่างแน่นอน คืออันที่จริงมหาวิทยาลัยแห่งนี้ก็ไม่ได้ถึงกับเพิ่งเปิดใหม่ Grand Opening กันแต่อย่างใดนะ เอาเข้าจริงก็มีอายุอานามประมาณ 20 ขวบปีกว่าๆ เห็นจะได้ละมั้งครับ แต่ก็ถือว่ายังจัดอยู่ในกลุ่มมหา'ลัยน้องเล็ก (Young University) หรือมหาวิทยาลัยที่มีอายุน้อยกว่า 50 ปี (อันนี้เป็นคำนิยามที่ใช้กันทั่วโลกในวงการการศึกษาเลยนะครับ น้าหนวดไม่ได้สถาปนาตั้งนิยามเองแต่อย่างใดนะจ๊ะ) มาว่ากันต่อในเรื่องของการเป็นน้องเล็ก หรือการที่มียังมีอายุไม่ถึง 50 ปีของมหาวิทยาลัย หลายๆคนอาจจะมองว่าเพิ่งเปิดมาไม่นานแล้วจะได้คุณภาพร่อออ เรื่องนี้หายห่วงได้เลยครับ เพราะมันจะเข้าทำนองที่ว่า "ผมไม่เล็ก" นะครับอย่างแน่นอน555 อย่างน้อย TUA ก็ได้รับการรับรองจากรัฐบาลออสเตรเลียเป็นที่เรียบร้อยแล้วเหมือนกัน และยังได้รับความนิยมในการเข้าศึกษาต่อเป็นอย่างมากในเมือง Adelaide อีกด้วย ซึ่งเอากันจริงๆในเรื่องของความเก่าแก่เนี่ยะ มหาวิทยาลัยชื่อดังหลายแห่งในออสเตรเลียหรือแม้แต่ในซิดนีย์ก็ยังมีอายุไม่ถึง 50 ปีเหมือนกันนะ ถ้าเอ่ยชื่อมาอาจจะมีช็อคกันได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นอย่าไปกังวลมากกันเรื่องอายุ ปล่อยให้มันเป็นเรื่องของตัวเลขไป
ถึงแม้ว่า Torrens University Australia อาจจะยังไม่ได้เด่น ไม่ได้ดังหรือปังอะไรเบอร์นั้น รวมถึงอาจจะยังไม่ได้เก่าแก่เหมือนที่ใครหลายๆคนต้องการ แต่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ก็มีจุดเด่นเป็นอัตลักษณ์ของตัวเองอยู่นะ จุดเด่นที่ว่าก็คือความเป็น Global Connections ของทางมหาวิทยาลัยนั่นเองครับ เพราะ Torrens University Australia นั้นอยู่ภายใต้การดูแลของ Laureate International Universities ที่มีสถาบันทางการศึกษาในด้านต่างๆมากกว่า 70 แห่งทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร แอฟริกาใต้ รวมทั้งในเอเชียอย่างประเทศจีนและมาเลเซียก็มีนะครับ และที่ต้องร้อง อู้ววว ว้าววว อะเมซซิ่ง ก็คือในประเทศไทยดินแดนขวานทองของเราก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ทาง Laureate International Universities ได้ไปเปิดสถาบันไว้เหมือนกัน ซึ่งสถาบันที่ว่านั้นก็คือ Stamford International University นั่นเอง เพราะฉะนั้นก็มั่นใจในเรื่องของคุณภาพได้อย่างแน่นอนครับ ถ้าไม่เจ๋งจริงเขาคงไม่สามารถไปเปิดสถาบันหรือมหาวิทยาลัยต่างๆได้ทั่วโลกอย่างนี้หรอก ซึ่งนั่นก็ทำให้มหาวิทยาลัยมีภาพจำหรือจุดแข็งที่ชัดเจนมากๆในเรื่องของ "GLOBAL OPPORTUNITIES AND GLOBAL CONNECTIONS" ซี่งนับได้ว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆสำหรับการทำธุรกิจในปัจจุบัน
นอกจากนี้ อีกจุดแข็งของมหาวิทยาลัยก็คือ การนำความรู้ไปใช้ได้จริงให้สัมฤทธิ์ผลหลังจากที่สำเร็จการศึกษาไป ทำให้ทุกหลักสูตรของมหา'ลัยจึงเน้นไปที่การเพิ่มทักษะต่างๆในการทำงาน และการเรียนการสอนที่ให้นักเรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์ตรงของผู้ทรงคุณวุฒิในด้านต่างๆ ซึ่งจำนวนนักเรียนต่อหนึ่งคลาสก็จะจัดให้อยู่ในสัดส่วนที่เหมาะสมเพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ผู้เรียน...และจากที่ได้บอกไปว่าหลักสูตรของมหา'ลัยจะเน้นไปที่การนำไปใช้ได้จริง ทำให้เกือบแทบจะทุกหลักสูตรของ Torrens University Australia จะต้องมี Industry Placement Program (IPP) เป็นเหมือนวิชาบังคับที่นักเรียนทุกคนจะต้องผ่านการประเมินจึงจะสำเร็จการศึกษาจากทางมหาวิทยาลัยไปได้ ตัวอย่างเช่น น้องๆจะสำเร็จการศึกษาในหลักสูตร Bachelor of Business ได้ก็ต่อเมื่อผ่านการประเมินของ IPP ซึ่งมีเวลาของการฝึกงานทั้งหมด 400 ชั่วโมงด้วยกัน...อีกข้อดีที่เป็นมากกว่าประสบการณ์จากการฝึกงาน หรือ Industry Placement Program (IPP) ก็คือ น้องๆจะได้ connections จากที่ฝึกงาน จนอาจจะนำไปสู่การจ้างงานในอนาคตได้อีกด้วย
เพราะฉะนั้นถ้าน้องๆคนไหนกำลังมองหามหาวิทยาลัยสำหรับการเรียนต่อในระดับปริญญาไม่ว่าจะเป็นปริญญาตรีหรือปริญญาโทอยู่แล้วหล่ะก็ น้าหนวดอยากจะให้ลองพิจารณา Torrens University Australia ไว้ในอ้อมใจกันดูบ้าง เพราะนอกจากข้อดีหรือจุดแข็งที่เล่าให้ฟังไปทั้งหมดใน MyFutureMyCP 2018/7 ฉบับประจำเดือนตุลาคมนี้ เรื่องค่าสินสอดทองหมั้นหรือค่าเทอมก็ไม่ได้แพงอย่างที่คิดนะ ยิ่งตอนนี้เขาก็มีทุนการศึกษามากมายมอบให้กับน้องๆที่สนใจจะเรียนกับทางมหาวิทยาลัยภายในปี 2018 นี้อีกด้วย โดยเทอมสุดท้ายของ Torrens University Australia ก็จะเริ่มเรียนในวันที่ 12 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้แล้วนะครับ ถ้ารวมช่วง late enrolment เข้าไปด้วยก็เต็มที่คือต้องเริ่มเรียนภายในเดือนพฤศจิกายนนั่นแหล่ะ ส่วนจะมีทุนการศึกษาในหลักสูตรไหนบ้างก็สามารถดูได้ตามภาพประกอบด้านล่างเลยนะครับ ถ้าสนใจในหลักสูตรไหนก็สามารถติดต่อเข้ามาที่ CPSydney office ให้เพื่อนร่วมงานของน้าหนวดจัดการสมัครเรียนให้ได้เลยนะครับ
ถึงแม้ว่า Torrens University Australia อาจจะยังไม่ได้เด่น ไม่ได้ดังหรือปังอะไรเบอร์นั้น รวมถึงอาจจะยังไม่ได้เก่าแก่เหมือนที่ใครหลายๆคนต้องการ แต่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ก็มีจุดเด่นเป็นอัตลักษณ์ของตัวเองอยู่นะ จุดเด่นที่ว่าก็คือความเป็น Global Connections ของทางมหาวิทยาลัยนั่นเองครับ เพราะ Torrens University Australia นั้นอยู่ภายใต้การดูแลของ Laureate International Universities ที่มีสถาบันทางการศึกษาในด้านต่างๆมากกว่า 70 แห่งทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร แอฟริกาใต้ รวมทั้งในเอเชียอย่างประเทศจีนและมาเลเซียก็มีนะครับ และที่ต้องร้อง อู้ววว ว้าววว อะเมซซิ่ง ก็คือในประเทศไทยดินแดนขวานทองของเราก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ทาง Laureate International Universities ได้ไปเปิดสถาบันไว้เหมือนกัน ซึ่งสถาบันที่ว่านั้นก็คือ Stamford International University นั่นเอง เพราะฉะนั้นก็มั่นใจในเรื่องของคุณภาพได้อย่างแน่นอนครับ ถ้าไม่เจ๋งจริงเขาคงไม่สามารถไปเปิดสถาบันหรือมหาวิทยาลัยต่างๆได้ทั่วโลกอย่างนี้หรอก ซึ่งนั่นก็ทำให้มหาวิทยาลัยมีภาพจำหรือจุดแข็งที่ชัดเจนมากๆในเรื่องของ "GLOBAL OPPORTUNITIES AND GLOBAL CONNECTIONS" ซี่งนับได้ว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆสำหรับการทำธุรกิจในปัจจุบัน
นอกจากนี้ อีกจุดแข็งของมหาวิทยาลัยก็คือ การนำความรู้ไปใช้ได้จริงให้สัมฤทธิ์ผลหลังจากที่สำเร็จการศึกษาไป ทำให้ทุกหลักสูตรของมหา'ลัยจึงเน้นไปที่การเพิ่มทักษะต่างๆในการทำงาน และการเรียนการสอนที่ให้นักเรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์ตรงของผู้ทรงคุณวุฒิในด้านต่างๆ ซึ่งจำนวนนักเรียนต่อหนึ่งคลาสก็จะจัดให้อยู่ในสัดส่วนที่เหมาะสมเพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ผู้เรียน...และจากที่ได้บอกไปว่าหลักสูตรของมหา'ลัยจะเน้นไปที่การนำไปใช้ได้จริง ทำให้เกือบแทบจะทุกหลักสูตรของ Torrens University Australia จะต้องมี Industry Placement Program (IPP) เป็นเหมือนวิชาบังคับที่นักเรียนทุกคนจะต้องผ่านการประเมินจึงจะสำเร็จการศึกษาจากทางมหาวิทยาลัยไปได้ ตัวอย่างเช่น น้องๆจะสำเร็จการศึกษาในหลักสูตร Bachelor of Business ได้ก็ต่อเมื่อผ่านการประเมินของ IPP ซึ่งมีเวลาของการฝึกงานทั้งหมด 400 ชั่วโมงด้วยกัน...อีกข้อดีที่เป็นมากกว่าประสบการณ์จากการฝึกงาน หรือ Industry Placement Program (IPP) ก็คือ น้องๆจะได้ connections จากที่ฝึกงาน จนอาจจะนำไปสู่การจ้างงานในอนาคตได้อีกด้วย
เพราะฉะนั้นถ้าน้องๆคนไหนกำลังมองหามหาวิทยาลัยสำหรับการเรียนต่อในระดับปริญญาไม่ว่าจะเป็นปริญญาตรีหรือปริญญาโทอยู่แล้วหล่ะก็ น้าหนวดอยากจะให้ลองพิจารณา Torrens University Australia ไว้ในอ้อมใจกันดูบ้าง เพราะนอกจากข้อดีหรือจุดแข็งที่เล่าให้ฟังไปทั้งหมดใน MyFutureMyCP 2018/7 ฉบับประจำเดือนตุลาคมนี้ เรื่องค่าสินสอดทองหมั้นหรือค่าเทอมก็ไม่ได้แพงอย่างที่คิดนะ ยิ่งตอนนี้เขาก็มีทุนการศึกษามากมายมอบให้กับน้องๆที่สนใจจะเรียนกับทางมหาวิทยาลัยภายในปี 2018 นี้อีกด้วย โดยเทอมสุดท้ายของ Torrens University Australia ก็จะเริ่มเรียนในวันที่ 12 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้แล้วนะครับ ถ้ารวมช่วง late enrolment เข้าไปด้วยก็เต็มที่คือต้องเริ่มเรียนภายในเดือนพฤศจิกายนนั่นแหล่ะ ส่วนจะมีทุนการศึกษาในหลักสูตรไหนบ้างก็สามารถดูได้ตามภาพประกอบด้านล่างเลยนะครับ ถ้าสนใจในหลักสูตรไหนก็สามารถติดต่อเข้ามาที่ CPSydney office ให้เพื่อนร่วมงานของน้าหนวดจัดการสมัครเรียนให้ได้เลยนะครับ
บอกได้เลยว่ามีทุนการศึกษามากมายให้คุณได้เลือกสรรกันจริงๆ ยังไงก็ติดต่อสอบถามกันมาได้นะครับที่ +61 2 9267 8522 หรือถ้าใครเป็นสายแชทก็สามารถส่งข้อความกริ๊งกร๊างมาหากันได้เลยที่ Facebook Page ของ CPSydney office ที่ https://www.facebook.com/cpsyd/ อ่อ อย่าลืมกดไลค์เพจ เพื่อเป็นอีกช่องทางในการติดตามข่าวสารดีๆจากเราด้วยนะครับ #ด้วยความปรารถนาดีจากCPSydney
#น้าหนวด
วางแผนการเรียนอย่างถูกต้อง คำนึงถึงอนาคตที่ดีของทุกคน CPSydney สิคะ...วีซ่านักเรียน วึซ่าทำงาน และวีซ่าครอบครัวต่างๆ #AllServicesYouNeedEndHere #CPSydneyชื่อนี้มีแต่ให้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น